วันอาทิตย์, มีนาคม 07, 2553

เรือเหาะยังวุ่น"บินต่ำ-กล้องไม่สมบูรณ์" ผบ.ทบ.ขึงขัง "ไม่รับ-ไม่จ่าย" หากผิดสเปค

ทดสอบ "เรือเหาะ" ยังวุ่น แถมปิดเงียบไม่ให้นักข่าวเข้า สุดท้ายคณะกรรมการของกองทัพบกยังตรวจรับไม่ได้ เหตุกล้องตรวจการณ์ไม่เรียบร้อย วิศวกรมือใหม่ ต้องศึกษาคู่มือเพิ่ม แถมยังบินต่ำไม่พ้นระยะยิง ด้าน ผบ.ทบ.ทำขึงขัง หากผิดสเปคไม่รับเด็ดขาด ลั่นไม่จ่ายเงินงวดสุดท้าย แต่ตอก กมธ.ทหาร ให้ข่าวบอลลูนรั่วทำไขว้เขว
เมื่อเวลา 09.30 น.วันศุกร์ที่ 5 มี.ค.2553 ที่กองพลทหารราบที่ 15 ท่าอากาศยานปัตตานี (สนามบินบ่อทอง) อ.หนองจิก จ.ปัตตานี ซึ่งเป็นที่ตั้งของโรงเก็บเรือเหาะตรวจการณ์ มูลค่า 350 ล้านบาทของกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร (กอ.รมน.) คณะกรรมการตรวจรับเรือเหาะของกองทัพบก (ทบ.) ได้เดินทางเข้าพื้นที่เพื่อตรวจสอบความพร้อมของเรือเหาะและอุปกรณ์ประกอบทั้งหมด เพื่อเตรียมทำเรื่องส่งมอบอย่างเป็นทางการ หลังจากต้องเลื่อนการส่งมอบมาเป็นระยะตั้งแต่ปลายเดือน ส.ค.ปีที่แล้ว
ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่ชุดปฏิบัติการเฝ้าตรวจทางอากาศซึ่งเป็นชุดทำงานที่มีหน้าที่ควบคุมการทำงานของเรือเหาะ พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่จากบริษัท International Cooperation ซึ่งเป็นบริษัทต่างชาติผู้ติดตั้งอุปกรณ์ประจำเรือเหาะ ได้นำเรือเหาะออกจากโรงเก็บ พร้อมนำเฮลิคอปเตอร์สนับสนุนการปฏิบัติงานที่ได้รับการติดตั้งอุปกรณ์และกล้องตรวจการณ์จำนวน 3 ลำ พร้อมรถบังคับการ (GLizzly) ซึ่งเป็นรถหุ้มเกราะ ทำหน้าที่สนับสนุนการปฏิบัติงานภาคพื้นดิน ออกมาเตรียมพร้อมเพื่อรอรับการตรวจจากคณะกรรมการตรวจรับของทาง ทบ.
อย่างไรก็ดี ในขั้นตอนการตรวจสอบความพร้อมและความสมบูรณ์ของเรือเหาะ ปรากฏว่าเจ้าหน้าที่ไม่อนุญาตให้ผู้สื่อข่าวและช่างภาพเข้าไปสังเกตการณ์ ทั้งๆ ที่ในช่วงแรกก่อนเริ่มตรวจสอบ เจ้าหน้าที่ทหารให้ผู้สื่อข่าวเข้าไปในห้องประชุมได้ แต่ภายหลังกลับเชิญออกจากกองพลทหารราบที่ 15 ทั้งหมด โดยอ้างเป็นคำสั่งจากผู้บังคับบัญชา
จากการสอบถามแหล่งข่าวรายหนึ่งที่อยู่ในชุดปฏิบัติการเฝ้าตรวจทางอากาศ ทราบว่า คณะกรรมการตรวจรับของ ทบ.เดินทางมาเพื่อตรวจสอบความพร้อมของเรือเหาะเท่านั้น โดยมีทีมวิศวกรจากต่างประเทศที่ทำหน้าที่ติดตั้งอุปกรณ์ของเรือเหาะ นำเรือเหาะในสภาพพร้อมใช้งานออกมาเพื่อให้ตรวจความเรียบร้อย แต่ยังไม่มีการตรวจรับอย่างเป็นทางการ
“สำหรับประสิทธิภาพของเรือเหาะเท่าที่ได้มีการทดสอบ ขณะนี้ยังบินได้สูงอยู่ในระดับ 1 กิโลเมตร ยังไม่เคยทดสอบบินขึ้นสูงถึง 3 กิโลเมตรตามสเปคที่กำหนดมา ส่วนภายในห้องนักบิน บรรจุกำลังพลได้ 3 นาย คือนักบิน ผู้ช่วยนักบิน และช่างกล้อง ซึ่งเดิมภายในห้องนักบินจะต้องมีอีก 1 ตำแหน่งคือเจ้าหน้าที่ปฏิบัติการหรือช่างประจำเรือเหาะ แต่ภายหลังไม่ได้ให้อยู่ในห้องนักบินด้วย”

จนท.ใช้กล้องไม่คล่อง-ส่อบินไม่พ้นระยะยิง
แหล่งข่าวกล่าวอีกว่า ในด้านความพร้อมของเจ้าหน้าที่ชุดปฏิบัติการเฝ้าตรวจทางอากาศที่ทำหน้าที่บังคับเรือเหาะทุกนาย ขณะนี้มีความพร้อมเต็มที่ และมั่นใจว่าจะสามารถทำงานได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ เพราะได้รับการฝึกฝนมาอย่างดี ทั้งระบบการทำงานของเรือเหาะ การสื่อสาร ตลอดจนการใช้อุปกรณ์ต่างๆ ในเรือเหาะ แต่ทีมงานของบริษัทผู้จัดจำหน่ายจะต้องร่วมดูแลเรือเหาะขณะปฏิบัติงานในพื้นที่เป็นเวลา 1 ปี พร้อมรับผิดชอบเรื่องการซ่อมบำรุงด้วย
ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า เรือเหาะยังประสบปัญหาเรื่องการใช้งานอุปกรณ์กล้องตรวจการณ์ เนื่องจากเจ้าหน้าที่ยังไม่สามารถใช้งานกล้องได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ ต้องศึกษาจากคู่มือเพิ่มเติม เพราะวิศวกรที่มาช่วยติดตั้งไม่มีความเชี่ยวชาญเพียงพอ อ้างว่าเป็นอุปกรณ์ชนิดใหม่ ทั้งยังมีปัญหาเรื่องการส่งสัญญาณภาพมายังสถานีภาคพื้นบางจุดด้วย ขณะที่ระยะบินของเรือเหาะที่บินได้สูงเพียง 1 กิโลเมตรนั้น แม้จะพ้นรัศมีของอาวุธปืนบางชนิด แต่ก็ยังอยู่ในระยะยิงของอาวุธสงครามบางชนิดได้วันเดียวกัน ที่กองการบิน กรมการขนส่งทหารบก กรุงเทพฯ พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา ผู้บัญชาการทหารบก (ผบ.ทบ.) ตอบข้อถามของสื่อมวลชนถึงกระแสข่าวเรือเหาะตรวจการณ์มูลค่า 350 ล้านบาทไม่มีคุณภาพตามมาตรฐานว่า ไม่เข้าใจว่าไม่ได้มาตรฐานอย่างไร เรื่องนี้คณะกรรมการตรวจรับต้องรับผิดชอบ หากรับไม่ได้ก็ต้องดำเนินการไป แต่จากการทดสอบและเท่าที่ได้ติดตามในส่วนของเครื่องเฮลิคอปเตอร์ (ที่ใช้สนับสนุนการทำงานของเรือเหาะ) สามารถส่งภาพได้ชัดเจนหมด ส่วนเรือเหาะอาจยังไม่เรียบร้อย คณะกรรมการจึงยังไม่ได้มีการรับ แต่เมื่อไรที่เรียบร้อย คงจะมีการรับ แต่ถ้ารับไม่ได้ก็ไม่รับ และไม่ต้องจ่ายเงินงวดสุดท้าย
ผู้สื่อข่าวถามถึงข่าวที่ว่า เรือเหาะตรวจการณ์บินสูงไม่ได้ตามมาตรฐาน ข้อเท็จจริงเป็นอย่างไร พล.อ.อนุพงษ์ กล่าวกลั้วหัวเราะว่า "บินได้ ถ้าบินไม่ได้ คณะกรรมการตรวจรับจะต้องรับผิดชอบ ดังนั้นจะต้องบินสูงตามสเปคที่ได้กำหนดไว้ หากสื่อไม่เข้าใจจะให้คณะกรรมการมาอธิบาย ซึ่งขณะนี้กำลังประสานงานขอเครื่องบินเพื่อนำสื่อมวลชนลงไปดู"

ซัด กมธ.ทหารวิจารณ์มั่ว-ทำไขว้เขว
ส่วนกรณีที่ พ.ต.ท.สมชาย เพศประเสริฐ ส.ส.นครราชสีมา พรรคเพื่อไทย ในฐานะประธานคณะกรรมาธิการการทหาร สภาผู้แทนราษฎร ระบุว่าเรือเหาะตรวจการณ์ไม่เหมาะกับสภาพพื้นที่สามจังหวัดชายแดนภาคใต้ และยังมีรอยรั่วนั้น พล.อ.อนุพงษ์ กล่าวว่า ไม่ทราบใครบอกว่ามีปัญหา แต่เพิ่งตรวจสอบกับเจ้าหน้าที่ ก็ยังไม่มีรายงานว่ามีปัญหาอะไร ทั้งนี้เรื่องการตรวจสอบสามารถทำได้หมด เพราะต้องโปร่งใส แต่อยากเรียนว่าการไปคิดเอาเองโดยไม่มีพื้นฐาน จะเกิดความไขว้เขว และยืนยันว่าไม่สามารถไปสั่งการคณะกรรมการตรวจรับได้
ผู้สื่อข่าวถามว่า ประสิทธิภาพของเรือเหาะมีความเหมาะสมกับพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้หรือไม่ พล.อ.อนุพงษ์ กล่าวว่า เหมาะสม ถ้าไม่เหมาะสมจะสั่งซื้อได้อย่างไร

เสธ.ทบ.ปัดข่าว กก.ตรวจรับไขก๊อกหนีผิด
ขณะที่ พล.อ.พิรุณ แผ้วพลสง เสนาธิการทหารบก กล่าวถึงข่าวนายทหารที่เป็นกรรมการตรวจรับเรือเหาะขอลาออกเพราะโครงการจัดซื้อเรือเหาะมีปัญหาว่า ข่าวที่ออกมาไม่เป็นความจริง ข้อเท็จจริงคือนายทหารคนดังกล่าวต้องไปฝึกขับเครื่องบินโดยสาร “แอมแบร์” ที่เข้าประจำการใหม่ หากต้องรอให้เสร็จการฝึกจะทำให้เสียเวลา จึงแต่งตั้งนายทหารคนอื่นมารับผิดชอบแทน

อ่านต่อ...

Our Blogger Templates Web Design

  © Blogger templates The Professional Template by Ourblogtemplates.com 2008

Back to TOP