วันเสาร์, กรกฎาคม 31, 2553

ตำรวจ-ทหาร บุกค้นบ้านครูสอนศาสนายะลา ยึดถังดับเพลิง อ้างคนร้ายเตรียมก่อเหตุ

จากกรณีที่เจ้าหน้าที่ทหารหน่วยเฉพาะกิจที่ 11 ยะลา พร้อมด้วยกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจ สถานีตำรวจภูธรตำบลลำใหม่ อ.เมือง จ.ยะลา ได้ตรวจค้นบริเวณบ้านพักของ นายอุเซ็ง เปาะเฮง อายุ 39 ปี เป็นครูสอนศาสนาอยู่ที่โรงเรียนประทีปวิทยา อยู่บ้านเลขที่ 41 ม.4 ต.ลิดล อ.เมือง จ.ยะลา และมีบ้านพักอยู่ห่างจากโรงเรียนประทีปวิทยาประมาณ 40 เมตร โดยเจ้าหน้าที่ได้ตรวจค้นพบเพียงถังเคมีดับเพลิงจำนวน 6 ถัง ที่บริเวณหน้าบ้านพักของนายอุเซ็ง ในเบื้องต้นเจ้าหน้าที่ตำรวจกล่าวอ้างว่า กลุ่มคนร้ายน่าจะเตรียมนำถังดับเพลิงดังกล่าวไปประกอบเป็นวัตถุระเบิด เพื่อนำมาก่อเหตุในพื้นที่เขตเทศบาลนครยะลา ส่วนนายอุเซ็ง เปาะเฮง ได้ปฏิเสธว่าไม่มีส่วนเกี่ยวข้องหรือรู้เห็นกับถังดับเพลิงดังกล่าว และให้การว่าถังดับเพลิงเหล่านี้น่าจะเป็นของกลุ่มคนร้ายที่ขโมยมาทิ้งไว้เท่านั้น

ด้านหน่วยข่าวด้านความมั่นคงในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ ได้มีการแจ้งเตือนก่อนหน้านี้แล้ว ว่า มีรายงานข่าวว่ากลุ่มก่อเหตุรุนแรงมีแผนที่เตรียมจะก่อเหตุในช่วงก่อนเดือน รอมฏอนตั้งแต่วันนี้ ถึงวันที่ 10 สิงหาคม 53 ดังนั้น โดยเฉพาะพื้นที่ อ.เมือง และ อ.บันนังสตา เนื่องจากในพื้นที่ อ.บันนังสตา กลุ่มผู้ก่อเหตุรุนแรงเพิ่งสูญเสียแกนนำระดับปฎิบัติการไป 2 ราย จึงเชื่อว่าจะมีปฎิบัติการตอบโต้จากกลุ่มคนร้ายในพื้นที่ จึงขอให้กำลังเจ้าหน้าที่ทหาร ตำรวจ และฝ่ายปกครอง พร้อมด้วยกำลังภาคประชาชนในพื้นที่ ได้เพิ่มความเข้มงวดในการปฏิบัติหน้าที่มากขึ้น

อ่านต่อ...

วันพุธ, กรกฎาคม 21, 2553

ลอบยิง ลอบบึ้ม ผู้การยะลาเตือนแผนลวงฆ่า มาร์คเตรียมปรับแผนรับมือ

ลอบยิงชาวบ้านที่ปัตตานี
เจ้าหน้าที่เข้าตรวจสอบสภาพศพ นายอับดุล ลอมันแว บริเวณถนนสายโคกโพธิ์ หมู่ 1 ต.บ่อทอง อ.หนองจิก จ.ปัตตานี หลังถูกผู้ก่อเหตุใช้ปืน เอ็ม16 กราดยิงจนเสียชีวิต ขณะขี่รถจักรยานยนต์กลับจากดื่มน้ำชาภายในหมู่บ้านเมื่อช่วงเช้าวันนี้ (21 ก.ค.)
ตำรวจสันนิษฐานเบื้องต้น เชื่อว่า สาเหตุเกิดจากการสร้างสถานการณ์รายวัน เนื่องจากผู้ก่อเหตุใช้อาวุธสงคราม
โจรใต้บึ้มทหารนราฯหวิดดับ
เมื่อเวลา 08.30น.วันที่ 20 กรกฎาคม ร.ต.ท.อุกฤษฎ์ สังฆะมณี ร้อยเวรสอบสวน สภ.รือเสาะ จ.นราธิวาส รับแจ้งเหตุคนร้ายกดระเบิดดักสังหารเจ้าหน้าที่ทหาร ชุด รปภ.ครู สังกัด ร้อย ร.1021 ฉก.นราธิวาส30 เหตุเกิดข้างโรงสีร้าง ในพื้นที่ ม.3 ต.สามัคคี อ.รือเสาะ จึงรีบไปตรวจสอบ ปรากฎว่าบริเวณตอไม้ในกองฟางข้างโรงสีร้าง มีหลุมระเบิดและเศษระเบิดกระจัดกระจาย เหตุเกิดขณะทหารชุด รปภ.ครู 4 นายและลูกจ้างภาครัฐอีก 2คน ขี่รถจักรยานยนต์ 3คัน ออกจากฐานเพื่อตรวจเส้นทางและดูแลความปลอดภัยให้ครูโรงเรียนบ้านสามัคคีและครูโรงเรียนบ้านสุวารี ที่เดินทางไปสอนหนังสือตามปกติ ระหว่างยืนบล็อกเส้นทาง คนร้ายที่แฝงตัวอยู่ได้จุดชนวนระเบิดที่ซ่อนไว้ในกองฟาง จนเกิดระเบิดเสียงดังสนั่นโชคดีไม่มีผู้ได้รับบาดเจ็บ เนื่องจากรัศมีระเบิดพุ่งเข้าป่ารกทึบข้างทาง ทำให้ทหารและลูกจ้างรอดตายหวุดหวิด

โจรใต้วางระเบิดทหารทำรถหุ้มเกราะเสียหาย
พ.ต.ท.ปกป้อง ท่อแก้ว สว.เวร สภ.เจาะไอร้อง จ.นราธิวาส รับแจ้งมีเหตุคนร้ายจุดชนวนระเบิดดักสังหารเจ้าหน้าที่ทหาร ฉก.นราธิวาส 31 ริมถนนจารุเสถียรสายเจาะไอร้อง-นราธิวาส ช่วงบริเวณบ้านบาโงดุดุง ม.6 ต.จวบ อ.เจาะไอร้อง ที่เกิดเหตุ พบเสาปูนซิเมนต์กันทางโค้งถูกอนุภาพระเบิดจนหัก และมีหลุมลึก 20 ซ.ม. กว้าง 50 ซ.ม. รวมทั้งเศษซากชิ้นส่วนของระเบิดแสวงเครื่องที่คนร้ายประกอบใส่ไว้ในถังแก๊สปิกนิก หนัก 15 ก.ก.จุดชนวนด้วยมือถือตกกระจายเกลื่อนถนนและพงหญ้ารกทึบริมทาง เจ้าหน้าที่จึงเก็บรวบรวมไว้เป็นหลักฐาน
จากการสอบสวน พ.ท.ยุทธนา สายประเสริฐ ผบ.ฉก.นราธิวาส 31 ทราบว่า ในระหว่างที่เจ้าหน้าที่ทหารในสังกัด จำนวน 10 นาย นั่งรถยนต์กระบะหุ้มเกราะตามกันมาจากตัวเมืองนราธิวาส เพื่อเดินทางกลับฐานนั้น เมื่อมาถึงที่เกิดเหตุได้มีคนร้ายแฝงตัวอยู่ในละแวกจุดเกิดเหตุ ได้ใช้โทรศัพท์มือถือจุดชนวนระเบิดแสวงเครื่องที่แอบลักลอบนำไปไว้ในกระสอบปุ๋ย แล้วนำมาพิงไว้กับโคกเสาปูนซิเมนต์กันทางโค้ง จนเกิดระเบิดขึ้นขณะที่รถยนต์หุ้มเกราะของทหารขับผ่าน แต่รัศมีการทำลายล้างได้หักเหเข้าไปในป่า จึงทำให้ทหารรอดตายไปได้อย่างหวุดหวิด มีเพียงตัวถังรถด้านซ้าย ถูกสะเก็ดระเบิดได้รับความเสียหายไปเล็กน้อย

บึ้มโก-ลก ทหาร-ชาวบ้านเจ็บ 9 ยะลาลอบวางระเบิด "ด.ต." สาหัส
เมื่อเวลา 17.10 น. วันที่ 19 กรกฎาคม ขณะที่กำลังทหาร ฉก.นราธิวาส 36 และ อส.ประจำ อ.สุไหงโก-ลก จ.นราธิวาส ตั้งด่านตรวจบนถนนสาย อ.สุไหงโก-ลก-อ.สุไหงปาดี บริเวณศาลาที่พักผู้โดยสาร สามแยกบาบูเบเกอรี่ เขตเทศบาลเมืองสุไหงโก-ลก คนร้ายได้กดโทรศัพท์มือถือจุดชนวนระเบิดแสวงเครื่องชนิดแอมโมเนียไนเตรต บรรจุในกล่องเหล็ก น้ำหนัก 5 กิโลกรัม ที่นำมาซุกไว้ในพงหญ้าริมถนน แรงระเบิดทำให้มีผู้ได้รับบาดเจ็บ ถูกนำตัวส่งโรงพยาบาลสุไหงโก-ลก จำนวน 9 คน แยกเป็นทหาร 3 นาย คือ ส.ท.วสันต์ ชุมพล อายุ 22 ปี, พลฯ ไพทูรย์ โพธิ์ศรี อายุ 22, พลฯ วิชิต พรหมสาเมฆ อายุ 23 เป็น อส. 3 นาย คือ อส.ไพโรจน์ สะแม อายุ 33 ปี, อส.มนูศักดิ์ อารง อายุ 29 ปี, อส.ซูกิฟลี ดาโอ๊ะ อายุ 26 ปี และเป็นชาวบ้านที่ขี่รถจักรยานยนต์ผ่านมาอีก 3 คน คือ นางต่วนรอดียะห์ ลีมิง อายุ 40 ปี ซึ่งกำลังตั้งครรภ์, ด.ญ.ไซบะ มูละ อายุ 15 ปี และนายมนัส แก้วอำพร อายุ 40 ปี

ก่อนหน้านี้ เวลา 14.00 น. พ.ต.อ.เฉลิมเกียรติ อมรากระสินธุ์ ผกก.สภ.ธารโต จ.ยะลา ตรวจสอบที่โรงพยาบาลธารโต หลังรับแจ้งมีผู้บาดเจ็บเหยียบระเบิดอาการสาหัสเข้ารักษาตัว พบ ด.ต.นิยม สุวรรณมณี ตำรวจชุดสืบสวนสอบสวน สภ.ธารโต ได้รับบาดเจ็บบริเวณขาซ้ายเป็นแผลฉกรรจ์เกือบขาด ตามร่างกายยังได้รับบาดเจ็บจากสะเก็ดระเบิดหลายแห่ง ต่อมาแพทย์ส่งตัวขึ้นเฮลิคอปเตอร์ ไปรักษาที่โรงพยาบาลสงขลานครินทร์ อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา เบื้องต้นทราบว่าขณะ ดต.นิยมไปตรวจสอบสวนยางพาราตนเองที่บ้านผ่านศึก หมู่ 2 ต.คีรี เขต อ.ธารโต ได้เหยียบกับระเบิดที่คนร้ายฝังไว้ เชื่อเป็นฝีมือคนร้ายกลุ่มเดียวกับที่สร้างสถานการณ์ในพื้นที่

ส่วนที่ จ.ปัตตานี ขณะที่นายสัมพันธ์ ลำภา อายุ 46 ปี ชาวสมุทรสงคราม อาชีพเป็นโฟร์แมน บริษัท เจนเนอรัล เอนจีเนียริ่ง จำกัด รับเหมาก่อสร้างกองพันพัฒนาและพิทักษ์ทรัพยากรที่ 1 กรมพัฒนาและพิทักษ์ทรัพยากรที่ 3 อ.หนองจิก จ.ปัตตานี ขับรถยนต์โตโยต้า สีขาว ทะเบียน รจ 6500 กรุงเทพมหานคร ไปบรรทุกน้ำมันในตัวเมืองปัตตานี ใช้เส้นทางภายในหมู่บ้านสาย บ้านบ่อทอง-ยะรัง เมื่อถึงบริเวณตลาดนัดกาแลกุโบ หมู่ 2 ต.ปุโละปุโย อ.หนองจิก ถูก 2 คนร้ายยืนอยู่ริมถนนใช้อาวุธปืนยิงใส่ กระสุนทะลุกระจกด้านข้างรถยนต์เฉียดบริเวณแก้มด้านขวา จึงขับรถยนต์หลบหนีไปที่บริเวณก่อสร้างและให้เพื่อนช่วยนำตัวส่งโรงพยาบาลหนองจิก

ทน.ยะลาทุ่มงบ10ล้าน ติดวงจรปิดกันเหตุร้าย
ยะลา:นายสถาพร กาญจนบุษย์ รองนายกเทศมนตรีนครยะลา เปิดเผยว่า เทศบาลนคร(ทน.)ยะลา ได้ดำเนินการติดตั้งกล้องวงจรปิด หรือ CCTV ในเขตเทศบาลนครยะลาเสร็จเรียบร้อยแล้ว จำนวน 297 ตัว ซึ่งมีตั้งแต่กล้องที่สามารถหมุนได้ 360 องศา และกล้องอยู่กับที่ สามารถซูมได้ นอกจากนี้ยังได้ดำเนินการติดตั้งกล้องชุดใหม่ในพื้นที่ตลาดสดรถไฟ หรือ ตลาดพิมลชัย เนื่องจากที่ผ่านมาได้เกิดเหตุระเบิดขึ้นประมาณ 5 ครั้ง ซึ่งประชาชนได้เรียกร้องให้มีการติดตั้งกล้องในบริเวณดังกล่าว เนื่องจากในแต่ละวันได้มีประชาชนมาจับจ่ายซื้อของเป็นจำนวนมาก


โดย ทน.ยะลา ได้รับการอุดหนุนงบประมาณจากศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ (ศอ.บต.) จำนวน 5 ล้านบาท และเงินสมทบจากทางการรถไฟอีกจำนวน 5 ล้านบาท เพื่อนำมาใช้ในการติดตั้งกล้องวงจรปิดทั้งหมด โดยเฉพาะพื้นที่โดยรอบตลาดสดรถไฟ ซึ่งเมื่อรวมกับของเดิมแล้ว ทน.ยะลา จะมีกล้องวงจรปิดรอบเขตเทศบาลนครยะลาทั้งสิ้น 330 ตัว

ผู้การยะลาเตือนแผนลวงฆ่า มาร์คเตรียมปรับแผนรับมือ
ด้าน พล.ต.ต.สายัณห์ กระแสแสน ผบก.ภ.จ.ยะลา มีวิทยุด่วนที่สุดถึงสถานีตำรวจภูธรทั้ง 8 แห่งในจ.ยะลา ว่า ขณะนี้กลุ่มคนร้ายหันมาก่อเหตุลอบวางระเบิดและซุ่มยิง เจ้าหน้าที่และ ประชาชนโดยมีกลลวง คือเมื่อเจ้าหน้าที่เข้าไปตรวจสอบที่เกิดเหตุ ก็จะวางระเบิดดักซ้ำซ้อนในที่เกิดเหตุ หรือซุ่มยิงระหว่างเจ้าหน้าที่เดินทางเข้าตรวจที่เกิดเหตุ

ขณะที่ นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี กล่าวหลังประชุม ครม.ถึงนโยบายแก้เหตุรุนแรงในภาคใต้ที่เคยระบุจะปรับวิธีทำงานให้เป็นเอกภาพมากขึ้น ว่า ตอนนี้ได้รวบรวมประเด็นอยู่แล้ว ซึ่งมีหลายประเด็นที่แต่ละฝ่ายเสนอมาและกำลังจะนัดประชุมหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง โดยให้ นายถวิล เปลี่ยนศรี เลขาธิการ สมช.เป็นผู้นัด

อ่านต่อ...

วันจันทร์, กรกฎาคม 05, 2553

Wanita dan Dua Anak Digranat Dalam Masjid di Pattani

Wanita dan Dua Anak Digranat Dalam Masjid di Pattani Kecederaan Anak-anak yang tidak berdosa
Seorang wanita dan dua anak lelakinya mengalami luka-luka namun dilaporkan tidak meninggal saat sebuah granat dilemparkan dan meledak di dalam masjid di distrik Sai Buri, Pattani, Thailand Selatan. Eskalasi kekerasan di provinsi paling bergolak di Thailand itu makin meningkat pekan-pekan belakangan ini.

Aranya Tokayor, 43 tahun dan dua anaknya, Romsu Aming, 9 tahun dan Amran Kwaeng, 9 tahun, mengalami luka bakar di sekujur tubuhnya. Saat granat meledak di Masjid Nurul Lamuttakin Tabing, ketiganya tengah duduk menunggu waktu shalat subuh. Kini ketiganya dirawat di RS Crown Price Sai Buri.

Penyelidik polisi menyatakan, pelaku peledakan adalah dua pria yang melemparkan granat dari atas sepeda motor. Granat masuk ke dalam masjid dan meledak. Polisi masih meneliti jenis granat yang diledakkan untuk mencari petunjuk ke arah pelaku.

Di distrik Muang di Yala, provinsi tetangga Pattani, sekitar 500 warga diserang sekelompok orang saat melakukan doa bersama. Saat itu, warga dari komunitas lintas agama Budha, Islam, dan Kunghucu tengah mengadakan doa damai badi korban yang meninggal dalam serangan sebelumnya. Sebanyak 33 biksu dan 21 ulama mengalami luka-luka dan dilarikan ke rumah sakit. Dua orang Kecederaan Anak-anak yang tidak berdosa

อ่านต่อ...

วันอาทิตย์, กรกฎาคม 04, 2553

โจรใต้บึ้มทหารดับอีก2 ฝีมืออาร์เคเคสะกดรอย

     ทหารพรานชุดเดินเท้าลาดตระเวนเส้นทางในหมู่บ้านที่ อ.บันนังสตา จ.ยะลา ถูกลอบวางระเบิดอีกแล้ว คราวนี้ยังคงเล่นของหนักใช้ระเบิดหนัก 15 กก.ส่งผลให้อส.ทพ.สงคราม ดำรงรักษ์ ถูกสะเก็ดระเบิดที่ศีรษะและใบหน้าหลายแห่ง รวมถึง อส.ทพ.สุริยัน เกตุขาว ถูกสะเก็ดระเบิดที่สะโพกหลายแห่งและขาด้านขวาขาด ทนพิษบาดแผลไม่ไหวได้เสียชีวิต วันที่ 4 ก.ค. เวลา 16.15 น. พ.ต.ท.วิชัย แจ้งสกุล รอง ผกก.สส.สภ.บันนังสตา จ.ยะลา ได้รับแจ้งเกิดเหตุคนร้ายลอบวางระเบิดเจ้าหน้าที่ทหารพรานได้รับบาดเจ็บสาหัส จำนวน 4 นาย ที่บ้านตารอยต่อระหว่าง หมู่ที่ 8 กับ หมู่ที่ 4 ต.ตาเนาะปูเต๊ะ อ.บันนังสตา จ.ยะลา หลังได้รับแจ้งจึงรีบเดินทางไปยังบริเวณที่เกิดเหตุพร้อมด้วย พ.ต.อ.สุวัตต วงค์ไพบูลย์ ผกก. จ.อ.ปรเมศวร์ จันทร์แสง ปลัดป้องกันอำเภอบันนังสตา กำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจ ทหาร ฉก.15 อ.บันนังสตา ชุดศรศึก-ศรชัย (EOD-ARMY) และฝ่ายปกครองอีกจำนวนหนึ่ง

      ที่เกิดเหตุอยู่ริมถนนสาย 410 ยะลา-เบตง ระหว่างหลักกิโลเมตร 26-27 พบเลือดเปรอะอยู่บนพื้นข้างทาง ส่วนผู้บาดได้รับบาดเจ็บทราบชื่อภายหลังคือ
1. อส.ทพ.สงคราม ดำรงรักษ์
2. อส.ทพ.สุริยัน เกตุขาว
3. อส.ทพ.สบาย มากเหลือ และ
4. อส.ทพ.สมปอง เกิดสมบัติ
จากการตรวจสอบในที่เกิดเหตุต่อมา พบว่า อยู่ห่างไหล่ทางเข้าไปใต้ร่มไม้ใหญ่ราว 10 เมตร พบหลุมระเบิดลึกประมาณ 50 เซนติเมตร มีสะเก็ดระเบิด และเศษชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ แบตเตอรี่ กระจัดกระจายทั่วทั้งบริเวณ เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้เก็บไว้เป็นหลักฐาน

      จากการสอบสวนทราบว่า เจ้าหน้าที่ทหารพรานชุดดังกล่าว มี ส.ท.นุซูรัน เจ๊ะสะแม เป็นหัวหน้าชุดนำกำลังทหารจำนวน 8 นายออกจากฐานในหมู่บ้านเดินเท้าลาดตระเวนรักษาความปลอดภัยเส้นทางสายดังกล่าว ขณะมาถึงที่เกิดเหตุได้แวะพักเหนื่อย ปรากฏว่า จู่ๆ ได้เกิดระเบิดดังขึ้นอย่างกึกก้อง แรงระเบิดทำให้อาสาสมัครทหารพรานทั้ง 4 นาย ที่อยู่ใกล้ที่สุดกระเด็นไปคนละทาง ทำให้อส.ทพ.สงคราม ดำรงรักษ์ ถูกสะเก็ดระเบิดที่ศีรษะและใบหน้าหลายแห่ง รวมถึง อส.ทพ.สุริยัน เกตุขาว ถูกสะเก็ดระเบิดที่สะโพกหลายแห่งและขาด้านขวาขาด ทนพิษบาดแผลไม่ไหวได้เสียชีวิต

     เบื้องต้นทางเจ้าหน้าที่ตำรวจสันนิษฐานว่า คนร้ายเป็นแนวร่วมอาร์เคเค (RKK) ที่เคลื่อนไหวในพื้นที่แอบสังเกตพฤติการณ์เจ้าหน้าที่ทหารพรานชุดนี้ออกลาดตระเวน และมักจะมาพักเหนื่อยอยู่ในบริเวณนั้นเป็นประจำ จึงได้นำระเบิดแสวงเครื่องอัดถังแก๊สปิกนิกหนักไม่ต่ำกว่า 15 กก.มาฝังไว้จุดชนวนให้ระเบิดขณะกำลังทหารพรานเข้ามาพักเหนื่อย จนทำให้มีเจ้าหน้าที่ทหารเสียชีวิต 2 นายและได้รับบาดเจ็บสาหัส 2 นายดังกล่าว
     ด้าน นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ถึงเหตุไม่สงบในชายแดนภาคใต้ที่มีความรุนแรงต่อเนื่อง ว่า ตนได้คุยกับคนทำงานหลายภาคส่วนเข้าใจว่า จะมีการปรับแนวทำงานบางเรื่องกันอยู่ แต่ภาพรวมของนโยบายด้านการพัฒนานั้น เป็นไปได้ด้วยดี ตอนนี้เป็นปัญหาเรื่องการบูรณาการทำงานฝ่ายความมั่นคงยังมีปัญหาอยู่ คือ เรื่องข้อมูลที่ได้มาจากแต่ละเหตุการณ์ที่ไม่เชื่อมโยงกัน หากมีการบูรณาการจะมีประสิทธิภาพกว่านี้และเชื่อโยงไปสู่แนวทางป้องกัน รวมทั้งจับกุมผู้เกี่ยวข้องได้มากกว่านี้

อ่านต่อ...

วันศุกร์, กรกฎาคม 02, 2553

2 วัน ดับ 8

สุดสลด! ลอบบึ้ม 3 ทหารที่ถูกส่งไปช่วยทำระบบประปาหมู่บ้านที่ยะลา
ยะลา – โจรใต้ลอบวางระเบิดรถยนต์ทหารที่ผู้บังคับบัญชาส่งไปช่วยชาวบ้านสร้างระบบน้ำประปาหมู่บ้าน อ.ยะหา จ.ยะลา ส่งผลให้มีทหารเสียชีวิตทันที 3 นาย สภาพศพแหลกเละไม่เป็นชิ้นดี เชื่อเป็นแนวร่วมที่แฝงตัวอยู่ในพื้นที่ปฏิบัติการสร้างสถาการณ์

ผู้สื่อข่าวรายงานจาก จ.ยะลา ว่า วันนี้ (2 ก.ค.) เวลา 13.40 น. พ.ต.อ.สวัสดิ์ เตียวิรัตน์ ผกก.สภ.ยะหา จ.ยะลา ได้รับแจ้งเกิดเหตุระเบิดรถยนต์เจ้าหน้าที่ทหาร มีทหารเสียชีวิตจำนวน 3 นาย เหตุเกิดบนถนนทางเข้าวัดปูแหล บ้านบาโย หมู่ที่ 8 ต.บาโระ อ.ยะหา จึงได้รายงานให้ผู้บังคับบัญชาทราบ จากนั้นจึงพร้อม พล.ต.ต.สายัณห์ กระแสแสน ผบก.ภ.จ.ยะลา พ.ต.ท.ประสม เกื้อหนุน สวป.พ.ต.ท.อัครโยธิน บุญวิโรจน์ สว.สส.สนธิกำลังเจ้าหน้าที่ทหาร ฉก.ยะลา 14 นำกำลังเข้าตรวจสอบพื้นที่
ในที่เกิดเหตุซึ่งอยู่ถนนในหมู่บ้าน ห่างจากถนนสาย 4077 เส้นทางยะหา-บันนังสตา เข้าไปในหมู่บ้านราว 1,500 เมตร เลยสามแยกทางเข้าวัดสวนแก้วราว 100 เมตร พบซากรถปิกอัพ ยี่ห้อมิตซูบิชิ 4 ประตู รุ่นไซโคลน สีบรอนซ์ทอง แผ่นป้ายทะเบียน ม 0514 ปัตตานี สภาพรถยนต์พังยับเยินเป็นเศษเหล็ก หงายท้องอยู่บนเนินข้างทาง ไม่สามารถนำรถยนต์คันดังกล่าวกลับมาใช้ได้
ห่างกันเล็กน้อยริมป่าสวนยางพารา เจ้าหน้าที่ตำรวจพบศพเจ้าหน้าที่ทหารในสภาพศพเละ อวัยวะแขนขากระจัดกระจายไปทั่ว จำนวน 3 นาย ทราบชื่อคือ ส.อ.วีระวุฒิ หวังกลิ่น อายุ 25 ปี ส.ท.วีระชาติ บุญเกื้อ อายุ 25 ปี และ พลทหาร กามารูดิง ตูวี อายุ 22 ปี ทั้งหมดสังกัด ร.15 พัน 1 อ.คลองท่อม จ.กระบี่ เจ้าหน้าที่กู้ภัยร่วมกันเก็บชิ้นส่วนร่างกายผู้เสียชีวิตนำส่งโรงพยาบาลสมเด็จพระยุพราชยะหา เพื่อดำเนินการต่อไป

ห่างจากรถไปราว 5 เมตร พบหลุมระเบิดอยู่กึ่งกลางถนนดิน ลึกและกว้างราว 1 เมตร พบสายไฟฟ้าลากยาวเข้าไปในสวนยางพาราร่วม 100 เมตร ชิ้นส่วนเศษถังแก๊สปิกนิก สีฟ้า เศษแบตเตอรี่ สะเก็ดระเบิดกระจายเป็นวงกว้าง จึงได้เก็บรวบรวมไว้เป็นหลักฐาน

จากการสอบสวนทราบว่า ก่อนเกิดเหตุเจ้าหน้าที่ทหารทั้ง 3 นาย ได้รับคำสั่งจากผู้บังคับบัญชาให้ไปช่วยต่อเดินท่อประปาเข้าไปในหมู่บ้าน ขณะที่ขับรถยนต์ปิกอัพคันดังกล่าวเดินทางออกจากฐานในวัดสวนแก้ว มาถึงจุดเกิดเหตุประมาณ 300 เมตร คนร้ายไม่ทราบกลุ่มและจำนวนที่แอบนำระเบิดแสวงเครื่องมาฝังไว้กลางถนนได้จุดชนวนกับแบตเตอรี่ จนเป็นเหตุให้เกิดระเบิดขึ้นเสียงดังสนั่นหวั่นไหว เสียงระเบิดดังไปถึงตลาดยะหาที่ห่างออกไปหลายกิโลเมตร

โดยแรงระเบิดทำให้รถยนต์ปิกอัพพลิกขึ้นหงายท้อง กระเด็นไปค้างบนเนินดินข้างทาง ส่วนเจ้าหน้าที่ทหารที่อยู่ในรถทั้งจำนวน 3 นาย ร่างแหลกกระจัดกระจายออกจากตัวรถไปเสียชีวิตทั้งหมด ส่วนกลุ่มคนร้ายที่ก่อเหตุเจ้าหน้าที่ตำรวจ คาดว่า เป็นแนวร่วมที่แฝงตัวอยู่ในหมู่บ้านพยายามก่อเหตุ เพื่อสร้างสถานการณ์

โจรใต้บึ้ม-ยิง ดับ 5 อส.-ชรบ.
โจรใต้ฆ่า 5 ศพ จุดชนวนระเบิดวางบึ้มรถทหารพราน-ชรบ.-ผู้ใหญ่บ้าน อ.รือเสาะ ขณะเข้าไปหาข่าวก่อนจะปิดล้อมตรวจค้นพื้นที่ เผยปะทะเดือดหลังกดชนวนระเบิด สุดท้ายฝ่ายเจ้าหน้าที่ถูกยิงตายทั้งหมดในที่เกิดเหตุ ผบก.นราธิวาสสั่งดูแลเข้มสถานที่ราชการ-ตรวจค้นบุคคลแปลกหน้าละเอียดยิบ

เมื่อเวลา 18.45 น. วันที่ 1 ก.ค. เจ้าหน้าที่ตำรวจประจำสถานีตำรวจภูธรรือเสาะ จ.นรา ธิวาส ได้รับแจ้งเหตุเกิดระเบิดขึ้นในพื้นที่หมู่ 3 บ้านบอมิ ต.นาดา อ.รือเสาะ จ.นราธิวาส หลังเกิดระเบิดขึ้นมีการปะทะยิงสู้กันระหว่างกลุ่มคนร้ายกับเจ้าหน้าที่อย่างต่อเนื่อง หลังเสียงปืนสงบ เจ้าหน้าที่ทหาร ตำวจ และเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครองในพื้นที่รือเสาะสนธิกำลังเข้าตรวจสอบที่เกิดเหตุ พบเจ้าหน้าที่ทหารพรานที่ 45 ชุดพัฒนาสันติ เสียชีวิต 5 นาย

พล.ต.ต.ชัยทัต อินทนูจิตร ผบก.ภ.นราธิวาส เปิดเผยว่าเจ้าหน้าที่ทั้งหมดรวม 5 นาย ได้เดินทางเข้าที่เกิดเหตุโดยรถยนต์เพื่อเข้าไปหาข่าว ก่อนที่จะนำกำลังเข้าปิดล้อมตรวจค้นพื้นที่ในวันที่ 2 ก.ค. แต่เมื่อขับรถยนต์ผ่านจุดเกิดเหตุ คนร้ายได้จุดชนวนระเบิดขึ้นและได้ใช้อาวุธสงครามยิงซ้ำจนทำให้เจ้าหน้าที่ทั้ง 5 นาย เสียชีวิตในที่เกิดเหตุ อย่างไรก็ตามหลังจากเกิดเหตุขึ้น ผู้บังคับการตำรวจภูธรนราธิวาสได้กำชับให้กองกำลังในพื้นที่เพิ่มความเข้มงวด ดูแลความปลอดภัยตามสถานที่ต่างๆ รวมถึงสนธิกำลังปิดล้อมพื้นที่เพื่อตรวจสอบบุคคลต้องสงสัยอย่างต่อเนื่อง โดยเจ้าหน้าที่คาดคนร้ายน่าจะยังกบดานในพื้นที่ดังกล่าว

สำหรับรายละเอียดของเหตุการณ์ครั้งนี้ เกิดเมื่อเวลา 18.50 น. ร.ต.อ.ไพรัช เกียรติเจริญศิริ ร้อยเวร สภ.รือเสาะ จ.นราธิวาส รับแจ้งเหตุคนร้ายจุดชนวนระเบิดดักสังหารเจ้าหน้าที่ทหารพรานชุดพัฒนาสันติ ที่ 3015 กรมทหารพรานที่ 45 เสียชีวิต บนถนนในหมู่บ้านบอมิ ม.7 ต.รือเสาะ จึงพร้อมด้วย พ.ต.อ.สามารถ วิชัยขัทคะ ผกก.สภ.รือเสาะ พ.อ.ไพศาล หนูสังข์ ผบ.กรมทหารพรานที่ 45 นายจำลอง ไกรดิษฐ์ นายอำเภอรือเสาะ และกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจทหารฝ่ายปกครองจำนวนหนึ่ง รุดเดินทางไปตรวจสอบที่เกิดเหตุ พบรถยนต์กระบะยี่ห้ออีซูซุ สีขาว ไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียน อยู่ในสภาพพังยับเยิน และมีศพผู้เสียชีวิตนอนอยู่ภายในห้องโดยสารและบนถนน ซึ่งอยู่ห่างจากหลุมระเบิด ลึก 2 ฟุต กว้าง 3 เมตร จำนวน 5 ราย

สำหรับผู้เสียชีวิต ถูกสะเก็ดระเบิดจนร่าง กายแหลกเหลว ประกอบด้วย 1.จ.ส.อ.เกียรติชัย แย้มทัพ อายุ 46 ปี 2.อส.ทพ.ภาสกร ซุ่มประการ อายุ 30 ปี 3.อส.ทพ.การิม แก้วสลัม อายุ 22 ปี 4.นายอับดุลรอแม แวกะจิ อายุ 38 ปี ซึ่งเป็นผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้านสโลว์ และ 5. นาย รุสมัน มะมิง อายุ 28 ปี ซึ่งเป็นชรบ.บ้านสโลว์

จากการสอบสวนทราบว่า ก่อนเกิดเหตุ จ.ส.อ.เกียรติชัย หัวหน้าชุดได้นำกำลังรวม 3 นาย ชวนผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้านและชรบ.อีก 2 คน นั่งรถยนต์กระบะ เพื่อเข้าไปสังเกตการณ์กลุ่มผู้ไม่หวังดีที่แฝงตัวเคลื่อนไหวภายในหมู่บ้านจุดเกิดเหตุ และระหว่างที่ จ.ส.อ.เกียตรชัยและพวกนั่งรถยนต์อยู่นั้น ได้มีคนร้ายไม่ทราบจำนวนแฝงตัวอยู่ในป่ารกทึบริมทาง ได้ใช้แบตเตอรี่จุดชนวนระเบิดแสวงเครื่องที่ประกอบใส่ไว้ในถังดับเพลิง หนัก 20 ก.ก.แล้วนำไปฝังไว้กลางถนน จนเกิดระเบิดขึ้นขณะขับรถยนต์ผ่าน จนรถยนต์ได้กระเด็นพลิกคว่ำ แล้วคนร้ายที่แฝงตัวอยู่ได้ใช้อาวุธปืนสงครามยิงถล่มใส่จ.ส.อ.เกียรติชัยและพวก จบชีวิตทั้งหมด แล้วคนร้ายได้วิ่งออกจากป่าหยิบอาวุธปืนเอชเค ของเจ้าหน้าที่หลบหนีไปด้วย 4 กระบอก ล่าสุด พ.อ.ไพศาล หนูสังข์ ผบ.กรมทหารพรานที่ 45 ได้ระดม กำลัง จำนวน 30 นาย ออกติดตามไล่ล่ากลุ่มคนร้ายไปอย่างกระชั้นชิดแล้ว

อ่านต่อ...

About This Blog

Our Blogger Templates Web Design

  © Blogger templates The Professional Template by Ourblogtemplates.com 2008

Back to TOP