วันเสาร์, เมษายน 07, 2555

"จังหวัดหาดใหญ่" "โจรกลุ่มเล็ก" ความเบาปัญญาแก้ไฟใต้ ของรบ.ปูแดง

ปฏิเสธไม่ได้เลยว่า ยิ่งนับวันปัญหาใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้นับวันจะยิ่งทวีคูณความรุนแรงไม่หยุดหย่อน ก่อนที่จะเกิดวินาศกรรมในครั้งนี้ สังคมก็ได้ยินข่าว ชาวบ้าน ครู ข้าราชการ เจ้าหน้าที่ทหาร ตำรวจถูกระเบิด ถูกยิงแทบจะเป็นรายวัน อย่างไรก็ตาม แม้ว่าปัญหา 3 จังหวัดภาคใต้ไม่ใช่เรื่องที่จะแก้ไขได้ภายในห้วงเวลาสั้น แน่นอนว่าต้องใช้เวลา นั่นก็เป็นเรื่องที่พอเข้าใจได้ในระดับหนึ่ง แต่เมื่อพิจารณาด้วยความเป็นธรรมในการทำงานของรัฐบาล น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตรและบรรดาผู้ที่เกี่ยวข้องด้วยแล้ว ดูจะยิ่งหลงทิศหลงทางเข้ารกเข้าพงอีกต่างหาก กล่าวสำหรับน.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นั้น คงต้องบอกว่ายังคงแสดงสติปัญญาอันอ่อนด้อยได้อย่างคงเส้นคงวาไม่มีเปลี่ยนแปลง เพราะนอกจากจะไม่ได้แสดงภาวะผู้นำประเทศในห้วงเวลายามวิกฤตเช่นนี้ แต่เธอกลับปล่อยไก่ตัวเบ้อเร่อในการตอบคำตอบถึงเรื่องนี้ ชนิดที่ไม่น่าให้อภัยเลยแม้แต่น้อย ทั้งนี้ หลังเกิดเหตุ กว่า น.ส.ยิ่งลักษณ์ นายยงยุทธ วิชัยดิษฐ รองนายกรัฐมนตรี นายณัฐวุฒิ ใสเกื้อ รัฐมนตรีช่วยว่าการเกษตรและสหกรณ์ พร้อมคณะ จะเดินทางไปลงก็ปาเข้าไปของบ่ายวันที่ 2 เมษายน แถมตัว นายกนกแก้วฯ ก่อนหน้าก็ไม่ได้มีท่าทีกระตือรือร้นจะลงไปตรวจพื้นที่โดยฉับพลันด้วยซ้ำ เพราะว่ากันว่าเธอยังมีหมายประชุมสุดยอดผู้นำอาเซียน ที่ต้องไปเยือนประเทศกัมพูชา แต่ด้วยการถูกกดดันอย่างหนักจึงทำให้จำใจต้องลงไปดูพื้นที่ด้วยตัวเอง และคงต้องบันทึกไว้ว่าเป็นวันที่เธอต้องอับอายขายขี้หน้าไปจนตายเลยทีเดียว “ก่อนอื่นต้องของแสดงความเสียใจกับญาติผู้เสียชีวิตและผู้ที่ได้รับบาดเจ็บ สำหรับภารกิจวันนี้ที่เป็นห่วงคือ อย่างน้อยอยากมาเห็นสถานที่เกิดเหตุด้วยตัวเอง และมาให้กำลังใจชาวจังหวัดหาดใหญ่” ตามมาด้วย ... “จุดผ่านแต่ละจุดตั้งแต่สนามบิน และเส้นทางที่คมนาคมต่างๆ รวมถึงสถานที่พัก โรงแรม โรงพยาบาล หรือส่วนต่างๆ ที่มีบริเวณเป็นที่สาธารณะ ก็จะมีการบูรณาการเจ้าหน้าที่ตำรวจในการดูแลความปลอดภัยให้กับประชาชนที่อยู่บริเวณแถบนี้และจังหวัดหาดใหญ่ด้วย” ... พระเจ้าช่วยกล้วยทอด ทำเอาประชาชนทั่วทั้งประเทศตลกไม่ออกไปตามๆ กัน เพราะใครจะไปเชื่อว่า ผู้สำเร็จปริญญาตรีจากม.เชียงใหม่ และปริญญาโทจาก ม.เคนทักกีสเคต สาขารัฐประศาสนศาสตร์ ที่มีชื่อเสียงโด่งดังของประเทศสหรัฐอเมริกาจะแสดงสติปัญญาอันเบาปัญญา ด้วยการให้สัมภาษณ์ว่า จังหวัดหาดใหญ่ ซึ่งความจริงแล้วใครก็รู้กันดีว่าเป็นอำเภอหนึ่งของจังหวัดสงขลา แต่ดันกลับกลายเป็นจังหวัดที่ 78 ของประเทศไทยไปแบบหน้าตาเฉย ซ้ำร้ายเป็นการผิดแบบติดต่อกันสองครั้งภายในเวลาไม่ถึงนาที นอกจากนั้น สิ่งตอกย้ำความเบาปัญญาของ นายกฯนกแก้ว อีกอย่างหนึ่งก็คือการให้สัมภาษณ์ชนิดไม่รู้อีโหน่อีเหน่ เมื่อถูกนักข่าวถามว่าข้อมูลการข่าวจะมีเหตุ การณ์ระลอก 2 และ 3 อีกหรือไม่ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ก็ตอบแบบชัดถ้อยชัดคำอีกครั้งว่า เราต้องทำทั้ง 2 อย่าง ซึ่งจริงๆ แล้วไม่ใช่กลุ่มใหญ่มาก นี่คือ สติปัญญาของ นายกฯนกแก้วผู้ไม่เคยรู้ประสีประสาอะไรเลย ถามว่าหากเป็นโจรกระจอกจริง จะกล้าลงมืออุกอาจถึงขนาดทำคาร์บอมบ์กลางเมืองหาดใหญ่ จนถึงขั้นสามารถกล่าวได้ว่าเป็นวินาศกรรมเชิงสัญลักษณ์ก็ไม่น่าจะผิดเพี้ยนเท่าใดเลย ทั้งนี้ ก็เพิ่งจะเข้าใจว่า น.ส.ยิ่งลักษณ์ ช่างเป็นเสมือนโคลนนิ่งของ น.ช.ทักษิณ เสียเหลือเกิน หากย้อนกลับไปจุดกำเนิดของความรุนแรงในปัญหาชายแดนใต้ ก็หาใช่เกิดจากใครก็เป็น ยุคตอน น.ช.ทักษิณ เรืองอำนาจ ที่เกิดเหตุ ปล้นค่ายทหาร กองพันพัฒนาที่ 4 อ.เจาะไอร้อง จ.นราธิวาส เมื่อ 4 ม.ค.47 เป็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นอย่างอุกอาจชนิดที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน ซึ่ง นช.ทักษิณ ก็เคยหยันว่าเป็นแค่"โจรกระจอก" มาวันนี้ปัญหาชายแดนใต้ในยุค น.ส.ยิ่งลักษณ์ ที่อ่อนไหวและซับซ้อนมากกว่าเดิมหลายเท่าตัว และยิ่งมาเจอคำว่า “โจรกระจอก” เข้าไปอีก มันก็พิสูจน์ให้เห็นว่า คนตระกูลชินวัตรทั้งสอง ได้ทำลายภาคใต้จนเป็นมิคสัญญีหนักกว่าเดิมเข้าไปอีก อย่างไรก็ดี หากกล่าวถึงการแก้ปัญหา3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ก่อนจะเกิดเหตุวินาศกรรม แนวทางการแก้ปัญหาก็ดูจะไม่ได้เป็นรูปเป็นร่างเลยด้วยซ้ำ เพราะผ่านมา 7-8 เดือน ตัวนายกฯนกแก้วนอกจากจะไม่ได้ทำสิ่งใดมากกว่าการเดินเฉิดฉายโชว์เสื้อผ้าหน้าผม ก็ไม่เคยมีการมอบนโยบาย ไม่มีการประชุมเชิงยุทธศาสตร์ให้กับฝ่ายความมั่นคงในฐานะที่ตัวเองเป็น ผอ.กอ.รมน.โดยตำแหน่ง ส่วนเรื่องการเยื้องกรายลงไปในพื้นที่ไม่ต้องพูดถึงไม่เห็นแม้แต่เงา นอกจากนั้นอีกตำแหน่งหนึ่งที่จะต้องพูดถึงก็คือ ตำแหน่ง เลขาฯ ศอ.บต. ที่มี พ.ต.อ.ทวี สอดส่องนั่งเป็นหัวเรือใหญ่ เพราะถือเป็นสายตรงเด็กในบ้านของ นช.ทักษิณ แถมยังสนิทกับนายกฯนกแแก้ว เป็นการเฉพาะ ทั้งนี้ การแต่งตั้งให้ พ.ต.อ.ทวีนั่งเก้าอี้ เลขาฯ ศอ.บต.กล่าวได้อย่างเต็มปากเต็มคำว่า ฝิดผาผิดตัวเต็มๆ เพราะพ.ต.อ.ทวี ไม่ใช่ลูกหม้อของกรมการปกครอง ไม่รู้ปัญหาของชายแดนใต้ดีพอ ที่ขีดเส้นใต้ไว้ก็คือปัญหาชายแดนใต้ซับซ้อนมากต้องใช้เวลาศึกษา และเป็นห่วงความรู้สึกของประชาชนที่เป็นมุสลิมกว่า 80% ที่มีความรู้สึกไม่ดีนักต่อภาพลักษณ์ของตำรวจ ดังนั้นจึงอย่าได้แปลกใจเลย หากจะได้ยินเสียงดังระงมมาตลอดว่าไปนั่งกินตำแหน่งเพื่อรอขึ้นที่อื่นที่สูงกว่านี้เพียงเท่านั้น(อ่านรายละเอียดในล้อมกรอบ) แน่นอนว่าเมื่อเกิดเหตุการณ์เช่นนี้ ประชาชนย่อมต้องมีสิทธิ์ตั้งคำถามว่าเหตุการณ์ความรุนแรงจะไปสิ้นสุดที่ใด และต่อจากนี้จะเกิดเหตุรุนแรงมากกว่าเดิมหรือไม่ เพราะตลอด 8 เดือนที่ผ่านมาที่รัฐบาลภายใต้การนำของ นายกฯ นกแก้วเข้ามามีอำนาจบริหารประเทศ ยังไม่มีการทำงานใดที่ออกมาเป็นรูปธรรมต่อปัญหาในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนใต้ของไทยเท่าที่ควร ซ้ำร้ายดูเหมือนจะยิ่งถอยหลังลงคลองไปมากกว่าเดิมเสียอีก

0 ความคิดเห็น:

About This Blog

รายการบล็อกของฉัน

รายการบล็อก

Our Blogger Templates Web Design

  © Blogger templates The Professional Template by Ourblogtemplates.com 2008

Back to TOP