ข้อเท็จจริง กรณีการเสียชีวิตนายสุไลมาน แนซา
ความจริงในวันนี้ เป็นสิ่งที่เหล่านักศึกษารับไมได้
Anak Melayu di Tindas
ข้อเท็จจริง กรณีการเสียชีวิตนายสุไลมาน แนซา
เมื่อวันที่ 30 พฤษภาคม 2553 เวลา 09.00 น. เจ้าหน้าที่ทหาร จากศูนย์เสริมสร้างความสมานฉันท์ ค่ายอิงคยุทธบริหาร ต.บ่อทอง อ.หนองจิก จ.ปัตตานี
ซึ่งเป็น หน่วยงานที่นำผู้ต้องสงสัยคดีความมั่นคงเข้าสู่ขบวนการซักถามได้ติดต่อไปยัง นายนูรดี อับดุลราฮิม ปลัดป้องกันอำเภอสายบุรี ว่าให้แจ้งครอบครัวของ นายสุไลมาน แนซา อายุ 25 ปี ซึ่งเป็นผู้ต้องสงสัยคดีความมั่นคง โดยถูกควบคุมตัวเมื่อวันที่ 22 พฤษภาคม 2553 ที่ อ.สายบุรี จ.ปัตตานี ว่า เมื่อเวลา 07.30 น. วันที่ 30 พฤษภาคม มีเจ้าหน้าที่ศูนย์เสริมสร้างสมานฉันท์พบนายสุไลมาน แนซา เสียชีวิตอยู่ในสภาพที่ผูกคอตายด้วยผ้าขนหนูในห้องพัก จึงขอให้มาร่วมชันสูตรศพและรับศพ
จากนั้นทางครอบครัว ได้ติดต่อประสานองค์กรภาคประชาสังคมในพื้นที่และเดินทางไปยังค่ายอิงคยุทธฯ พร้อมด้วยญาติพี่น้องรวมกว่า 10 คน เพื่อร่วมตรวจสอบ เมื่อเข้าไปดูพบศพ นายสุไลมาน แนซา อยู่ในสภาพผูกคอตายด้วยผ้าขนหนูตรงบริเวณหน้าต่างในห้องพัก สภาพศพลิ้นจุกปาก โดยแพทย์จากโรงพยาบาลหนองจิกได้เข้าชันสูตรศพและตรวจร่างกาย จากการตรวจร่างกายญาติพบว่าบริเวณลำคอมีรอยถลอก บริเวณใบหน้าและหน้าผากด้านขวามีรอยแผลเป็นทางยาว บริเวณหน้าท้องมีลักษณะคล้ายรอยจี้เป็นจุดๆและเอวด้านหลังมีลักษณะคล้ายรอย จี้เดียวกันเป็นแนวยาว บริเวณอวัยวะเพศมีคราบเลือดพบมีรอยแผลบริเวณอัณฑะ บริเวณต้นขามีลักษณะคล้ายรอยช้ำและบริเวณสะโพกมีแผลคล้ายรอยจี้เดียวกันเป็น บางจุด ภายหลังจากชันสูตรศพทางครอบครัวได้นำศพกลับไปที่ อ.สายบุรี และทางองค์กรภาคประชาสังคมได้เชิญแพทย์จากโรงพยาบาลยุพราชสายบุรีตรวจร่าง กายอีกครั้งที่บ้านของผู้เสียชีวิตเพื่อความสบายใจของทางครอบครัว ข้อสังเกต
-จากการสอบถามนายเจ๊ะแว แนซา อายุ 59 ปี ผู้เป็นพ่อ บอกว่าหลังจากที่ลูกชายถูกควบคุมตัวทางครอบครัวได้ไปเยี่ยมลูกชายทุกวันและ ทุกครั้งที่ไปเยี่ยมตั้งแต่วันที่ 23-26 ครอบครัวสามารถเข้าเยี่ยมลูกชายได้ แต่ในวันที่ 27- 28 พฤษภาคม เจ้าหน้าที่ไม่อนุญาตให้พบลูกชายโดยให้เหตุผลว่าลูกชายอยู่ในช่วงของการสอบ สวน
-เมื่อวันศุกร์ที่ 28 พฤษภาคม ที่ผ่านมาเจ้าหน้าที่ทหารได้มาตรวจค้นบ้านพร้อมกับนายสุไลมาน แนซา เพื่อหาหลักฐานเพิ่มเติม แต่จากการตรวจค้นไม่พบหลักฐานใดๆ
-จากการสอบถามนางสาวนูรมา แนซา อายุ 20 ปี น้องสาวผู้เสียชีวิต บอกว่าเมื่อวันเสาร์ที่ 29 พฤษภาคม ได้ไปเยี่ยมพี่ชายที่ค่ายอิงคยุทธฯ สังเกตเห็นว่าพี่ชายดูอ่อนเพลีย ทุกครั้งที่ตัวเองมาเยี่ยมพี่ชายตนสามารถจับมือถือแขนพี่ชายได้แต่ครั้งนี้ เจ้าหน้าที่ไม่อนุญาตให้ตัวเองเข้าใกล้พี่ชาย โดยให้เหตุผลว่าพี่ชายอยู่ในช่วงของการสอบสวน
-ญาติพบว่าจากการคลำลำคอพบว่าคอหัก บริเวณลำคอมีรอยถลอก บริเวณใบหน้าและหน้าผากด้านขวามีรอยแผลเป็นทางยาว บริเวณหน้าท้องมีลักษณะคล้ายรอยจี้เป็นจุดๆและเอวด้านหลังมีลักษณะคล้ายรอย จี้เดียวกันเป็นแนวยาว บริเวณอวัยวะเพศมีคราบเลือดพบมีรอยแผลบริเวณอัณฑะ บริเวณต้นขามีลักษณะคล้ายรอยช้ำและบริเวณสะโพกมีแผลคล้ายรอยจี้เดียวกันเป็น บางจุด
เก็บข้อมูลโดย
-เครือข่ายส่งเสริมสิทธิและและเข้าถึงความยุติธรรม (HAP)
-คณะทำงานยุติธรรมเพื่อสันติภาพ (Just Peace)
-สมาคมสตรีจังหวัดชายแดนภาคใต้เพื่อสันติภาพ (Deep Peace)
-เครือข่ายอาสาสมัครสื่อสันติภาพชายแดนใต้(STM)
-กลุ่มบุหงารายา
..................................
‘สุไลมาน แนซา’ ผู้ต้องสงสัยหมายพรก.ตายปริศนา! ในค่ายอิงคยุทธฯ
กองบรรณาธิการสำนักข่าวอามาน
‘สุ ไลมาน แนซา’ ผู้ต้องสงสัยตามหมายจับ พรก.เสียชีวิตอย่างมีเงื่อนงำ ขณะถูกควบคุมตัวอยู่ในค่ายอิงคยุทธบริหารปัตตานี เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ระบุใช้ผ้าขนหนูผูกคอตายในห้องควบคุม ขณะที่บิดาและญาติไม่เชื่อว่าบุตรชายจะคิดสั้น และพร้อมจะดำเนินการติดตามตรวจสอบการตายของบุตรชายต่อไป ส่วนหัวหน้าผู้ควบคุมศูนย์สร้างเสริมสันติสุขระบุ พร้อมช่วยเหลือครอบครัว แต่การเปิดโอกาสให้ตรวจสอบยังไม่แน่ชัด
เว็บไซต์มติชนออนไลน์(www.matichon.co.th) รายงานว่าเมื่อเวลา 10.00 น.ของวานนี้ ร.ต.ท.วิษณุ ทนงาน พนักงานสืบสวน สภ.หนองจิก จ.ปัตตานี รับแจ้งจากเจ้าหน้าที่ทหารค่ายอิงคยุทธบริหาร ต.บ่อทอง อ.หนองจิก จ.ปัตตานี ว่ามีผู้ต้องสงสัยที่ถูกควบคุมตัวตามหมายจับ พรก.เสียชีวิตโดยการฆ่าตัวผูกคอตายที่ห้องควบคุมตัว 102 จึงรายงานให้ผู้บังคับบัญชาทราบและรุดไปตรวจสอบที่เกิดเหตุพร้อมด้วยเจ้า หน้าที่ฝ่ายต่างๆ ทั้ง ตำรวจ ทหารเจ้าหน้าที่ชุดนิติวิทยาศาสตร์ แพทย์พยาบาลเพื่อทำการชันสูตรศพ ทราบชื่อ ผู้เสียชีวิต คือ นายสุไลมาน แนซา อายุ 23 ปี อยู่บ้านเลขที่ 35 ม.1 บ้านฮูแตมาแจ ต.กะดุนง อ.สายบุรี จ.ปัตตานี สภาพผูกคอตายโดยใช้ผ้าขนหนูผูกกับเหล็กดัดของหน้าต่าง และไม่มีร่องรอยการต่อสู้ใดซึ่งคาดว่าน่าจะเสียชีวิตเมื่อคืน
ต่อมา เมื่อเวลา 14.00 น .ทางญาติของผู้เสียชีวิตได้มีการนำศพออกจากค่ายอิงคยุทธบริหารกลับไปประกอบ พิธีทางศาสนาที่ อ.สายบุรี ท่ามกลางเสียงการวิพากษ์วิจารณ์ถึงสาเหตุการเสียชีวิตว่าเป็นการฆ่าตัวตาย หรือถูกกระทำโดยผู้อื่น ซึ่งในการรับศพครั้งนี้มีองค์กรภาคประชาสังคม เช่น สมาคมยุวมุสลิม มูลนิธิผสานวัฒนธรรม เครือข่ายส่งเสริมสิทธิและเข้าถึงความยุติธรรม ซึ่งเป็นองค์กรที่ทำงานให้การช่วยเหลือประชาชนที่ไม่ได้รับความเป็นธรรมใน พื้นที่มาร่วมด้วย
จากการเปิดเผยของนาย ‘เจะแว แนซา’ บิดาผู้เสียชีวิต บอกว่า นายสุไลมาน มีพี่น้อง 5 คน เป็นบุตรชายคนโตของครอบครัว ขยันทำงานช่วยพ่อทำงานซึ่งเป็นนายช่างรับจ้างก่อสร้างบ้าน ถูกเจ้าหน้าที่ปิดล้อมและจับกุมตัวที่บ้านเมื่อวันที่ 22 พ.ค. 2553 ขณะกำลังทำงานสร้างบ้านในหมู่บ้าน และต่อมาเมื่อวันที่ 28 พ.ค.เจ้าหน้าที่ได้นำตัวสุไลมานกลับมาค้นที่บ้านพักอีกครั้ง จนกระทั่งมาทราบข่าวเมื่อเช้าวันนี้เวลา 09.00 น.จากเจ้าหน้าที่ทหารว่าบุตรเสียชีวิตโดยการผูกคอฆ่าตัวตาย ซึ่งตนไม่อยากเชื่อว่าบุตรชายจะต้องฆ่าตัวตาย และเมื่อได้มาดูศพมีข้อสงสัยหลายอย่าง เช่น คนที่ผูกคอฆ่าตัวตายทำไมขาติดพื้น และตามตัวมีรอยฟกช้ำหลายแห่งทั้งที่ขา และหน้าท้องเหมือนคนที่ถูกทำร้ายมาก่อน จึงขอเรียกร้องความเป็นธรรมให้ทางเจ้าหน้าที่ได้ให้ความความกระจ่างถึง สาเหตุการเสียชีวิตเพราะตนไม่เชื่อว่าบุตรชายจะคิดสั้นถึงกับฆ่าตัวตายเพราะ เขาไม่ได้ทำความผิดอะไร
ด้าน พ.อ.ปิยวัฒน์ นาควานิช หัวหน้าผู้ควบคุมศูนย์เสริมสร้างสันติสุข ซึ่งดูแลผู้ต้องสงสัยที่ถูกควบคุมตัว กล่าวว่า ก่อนเกิดเหตุ นายสุไลมาน ก็ใช้ชีวิตตามปกติรวมกับเพื่อนคนอื่นๆ คือ ตอนเย็นก็จะปล่อยให้มีการเล่นกีฬา กินข้าว พอกลางคืนก็อยู่ในห้องปกติซึ่งจะถูกคุมขังอยู่ห้องละ 1 คน เมื่อเช้าวันนี้เวลาประมาณ 07.00 ทางเจ้าหน้าที่จะนำอาหารให้กินปรากฏว่าประตูปิดจึงให้เพื่อนเข้าไปดูพบว่า นายสุไลมานเสียชีวิตแล้ว ส่วนสาเหตุของการฆ่าตัวตายนั้น ยังไม่ทราบแน่ชัดเนื่องจากว่าก่อนหน้านี้ไม่มีข้อบ่งชี้หรือมีภาวะความ เครียดที่จะนำไปสู่การฆ่าตัวตาย สำหรับการให้ความช่วยเหลือครอบครัวคงต้องรอให้ผู้บังคับบัญชาสั่งการเนื่อง จากเป็นเคสแรกที่เกิดขึ้น แต่ในเบื้องต้นก็ช่วยอำนวยความสะดวกในการเคลื่อนย้ายศพกลับไปที่บ้าน ถ้าญาติต้องการความช่วยเหลือก็ยินดี
ด้านผู้สื่อข่าวของสำนักข่าวอา มานรายงานว่า ขณะที่มีการเคลื่อนย้ายศพมาจากค่ายอิงคยุทธบริหาร จ.ปัตตานีมายังบ้านที่กะดุนง อ.สายบุรี มีชาวบ้านจำนวนมากทั้งภายในหมู่บ้านและจากข้างเคียงเข้ามาดูศพและวิพากษ์ วิจารณ์ถึงสาเหตุการเสียชีวิต เมื่อทราบความจริงจากปากของมารดานายสุไลมานว่า ก่อนหน้าการเสียชีวิตหนึ่งวันได้เดินทางไปเยี่ยม สภาพร่างกายของนายสุไลมานก็ผิดปกติ เพราะเดินกะโผลกกะเผลก ซึ่งเขาบอกกับน้องสาวที่ไปกับมารดาว่า เขาไม่ไหวแล้ว ชาวบ้านส่วนใหญ่จึงสงสัยว่านายสุไลมานไม่ได้ฆ่าตัวตายเอง
ผู้สื่อ ข่าวรายงานอีกว่า สื่อมวลชนจากหลายสำนักได้เข้าไปถ่ายรูปศพอย่างละเอียด เนื่องจากการชันสูตรพลิกศพครั้งแรกในค่ายอิงคยุทธฯ นั้น เจ้าหน้าที่ทหารไม่อนุญาตให้สื่อมวลชนเข้าไปทำข่าวหรือบันทึกภาพ ซึ่งปรากฏว่า สภาพศพ มีเลือดออกบริเวณอวัยวะเพศและทวารหนัก มีรอยแผลตามลำคอ เหมือนถูกรัดด้วยเชือกที่แข็งกว่าผ้าขนหนู
ขณะที่ แพทย์จากโรงพยาบาลสมเด็จพระยุพราช สายบุรีที่เข้ามาตรวจสอบชันสูตรศพอีกรอบก็มีอาการเคร่งเครียดอย่างเห็นได้ ชัด มีการโทรปรึกษากับเพื่อนแพทย์ด้วยกันตลอดเวลา ก่อนจะบอกกับญาติๆ ว่าไม่สามารถชี้ชัดถึงสาเหตุของการเสียชีวิตได้ พร้อมกับเสนอให้ส่งศพไปผ่าตรวจสอบอย่างละเอียดที่สถาบันนิติเวช โรงพยาบาลสงขลานครินทร์ อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา โดยเพื่อนแพทย์ของตนจะรับดำเนินการติดต่อประสานงานให้
ด้าน นายอับดุลอาซิซ ตาเดอินทร์ ประธานฝ่ายสิทธิมนุษยชน สมาคมยุวมุสลิมแห่งประเทศไทย ในฐานะคนกลางผู้ประสานงานเปิดเผยว่า ตนเองเห็นด้วยกับการส่งศพนายสุไลมานไปผ่าตรวจสอบอย่างละเอียดที่สถาบันนิติ เวช อ.หาดใหญ่ เพื่อทำให้ความจริงปรากฏแก่ทุกฝ่าย จะได้ไม่ติดใจข้อสงสัยและวิพากษ์วิจารณ์กันต่อไป
ผู้สื่อข่าวรายงาน เพิ่มเติมอีกว่า ประชาชนที่เข้ามาดูศพนายสุไลมานและญาติๆ ต่างเห็นด้วยกับการส่งศพนายสุไลมานไปดำเนินการตรวจสอบทางนิติเวช แต่เมื่อมีการพูดคุยในขั้นสุดท้ายกับพ่อผู้เสียชีวิตปรากฏว่า นายเจะแว ตัดสินใจที่จะฝังศพบุตรชายในเวลาประมาณสองทุ่มของวันนี้ (31 พฤษภาคม) เพราะหากส่งศพไปผ่าพิสูจน์จะทำให้นำกลับมาฝังล่าช้าไปหนึ่งวัน.
0 ความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น