วันศุกร์, มิถุนายน 25, 2553

ปาบึ้มหน้ามัสยิดที่สายบุรี…อีกหนึ่ง“เหตุร้ายอธิบายยาก”

แม้จะยังไม่มีคำตอบสุดท้ายที่ชัดเจนเป็นข้อยุติว่าทำไมช่วงนี้ “ไฟใต้” จึงกลับมาคุโชนอีกครั้ง แต่สิ่งที่ทุกคนเห็นตรงกันก็คือสถานการณ์ความรุนแรงกระจุกตัวอยู่ในบางพื้นที่มากเป็นพิเศษ และยังมีเหตุการณ์แปลกๆ ที่นำไปสู่ความแตกแยก กลายเป็นหัวข้อวิจารณ์อย่างกว้างขวางในหมู่ประชาชนในพื้นที่อีกด้วย

และหลายเรื่องฝ่ายความมั่นคงก็ถูกลดทอนความน่าเชื่อถือตามเคย ไม่ว่าจะเป็นปริศนาการเสียชีวิตของ นายสุไลมาน แนซา ผู้ต้องสงสัยในคดีความมั่นคง วัย 25 ปี ที่เป็นศพผูกคอตายในค่ายทหาร หรือกรณีเหตุระเบิดบนถนนหน้ามัสยิดกลางประจำจังหวัดยะลาขณะที่มีรถทหารคันหนึ่งแล่นผ่าน แต่ช่วงแรกทหารกลับไม่ยอมรับว่าเป็นรถของกำลังพลตัวเอง ฯลฯ


และล่าสุดก็คือเหตุการณ์คนร้ายปาระเบิดเข้าไปบริเวณหน้ามัสยิดนูรูลมุตตาลีน บ้านตะบิ้ง หมู่ 1 ต.ตะบิ้ง อ.สายบุรี จ.ปัตตานี เมื่อค่ำวันเสาร์ที่ 19 มิ.ย.ที่ผ่านมา ทำให้มีเด็กวัย 9 ขวบกับ 10 ขวบ และผู้หญิงวัยกลางคนได้รับบาดเจ็บรวม 3 คน

เหตุรุนแรงที่กระทำต่อมัสยิดหรือใกล้กับสถานที่ประกอบศาสนกิจเช่นนี้ ต้องยอมรับว่ามีความอ่อนไหวสูงอยู่แล้ว แต่นี่ยังเกิดเหตุในพื้นที่ อ.สายบุรี อีก ทำให้เสียงวิพากษ์วิจารณ์ยิ่งหนักหนักสาหัสมากขึ้น เพราะต้องไม่ลืมว่าสายบุรีเคยมีเหตุการณ์ร้ายๆ ที่เกี่ยวพันกับเจ้าหน้าที่รัฐหลายเหตุการณ์ ซ้ำยังมีเหตุรุนแรงที่ชาวบ้านมองว่าเป็นลักษณะตอบโต้กันไปมาระหว่างฝ่ายรัฐกับกลุ่มขบวนการที่เคลื่อนไหวอยู่ในพื้นที่ด้วย



ย้อนรอยเหตุทหารพรานยิงชาวบ้าน

หลายคนคงยังจำได้ดีกับค่ำคืนวันเสาร์ที่ 22 ส.ค.2552 ที่ชุดอาสาสมัครทหารพราน (อส.ทพ.) จากหน่วยเฉพาะกิจกรมทหารพรานที่ 44 ยิงกับกลุ่มวัยรุ่นและประชาชนที่บ้านปาตาบาระ หมู่ 1 ต.ปะเสยะวอ อ.สายบุรี ขณะอ้างว่าขอเข้าตรวจค้นกลุ่มวัยรุ่นที่กำลังเสพยาเสพติดบริเวณชายหาดริมทะเล จนเป็นเหตุให้มีผู้ได้รับบาดเจ็บ 3 ราย (ภายหลังเสียชีวิต 1 ราย) และสร้างความไม่พอใจให้กับชาวบ้าน ถึงกับรวมตัวกันนับร้อยคนมาล้อมกรอบกลุ่มอาสาสมัครทหารพรานจนกลายเป็นเรื่องเป็นราวใหญ่โต เพราะเกิดเหตุในช่วงเทศกาลถือศีลอด หรือเดือนรอมฎอนพอดี

แม้ในเวลาต่อมาสถานการณ์ตึงเครียดจะคลี่คลาย เมื่อ นายลือชัย เจริญทรัพย์ นายอำเภอสายบุรี เข้าไกล่เกลี่ยทำความเข้าใจและยอมรับข้อเรียกร้อง 3 ข้อของชาวบ้าน คือให้ญาติผู้เสียหายเข้าแจ้งความดำเนินคดีกับเจ้าหน้าที่ที่กระทำการเกินกว่าเหตุ และให้มีตัวแทนชาวบ้านร่วมตรวจสอบข้อเท็จจริงทุกขั้นตอน แต่หลังจากนั้นไม่นานเหตุการณ์ก็บานปลาย

โดยเมื่อคืนวันพฤหัสบดีที่ 27 ส.ค.2552 หรือ 5 วันหลังเกิดเหตุ มีคนร้ายไม่ทราบกลุ่มและจำนวนลอบวางเพลิงเผาสถานที่ราชการ 2 แห่งใน อ.สายบุรี พร้อมทั้งโปรยตะปูเรือใบ ตัดต้นไม้ขวางถนน เผายางรถยนต์ วางวัตถุต้องสงสัย และติดป้ายที่ทำจากกระสอบปุ๋ยโจมตีการทำงานของฝ่ายปกครอง อ.สายบุรี รวมทั้งเจ้าหน้าที่ทหารพราน บนทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 42 ช่วงบ้านทุ่งคล้าถึงบ้านมะนังดาลำ ท้องที่ ต.ทุ่งคล้า ต.เตราะบอน ต.ตะบิ้ง และ ต.มะนังดาลำ

ถัดจากนั้นอีก 1 คืน เกิดเหตุคนร้าย 2 คนใช้รถจักรยานยนต์เป็นพาหนะ ขว้างระเบิดเข้าใส่กลุ่มชาวบ้านที่เล่นเปตองอยู่ในสนามเปตอง บริเวณบ้านเลขที่ 75/4 หมู่ 2 ต.ตะบิ้ง อ.สายบุรี ทำให้มีผู้เสียชีวิต 1 ราย คือ นายรอฮะ แวกาจิ อายุ 60 ปี ทั้งยังมีผู้ได้รับบาดเจ็บอีก 16 ราย ล้วนเป็นคนสูงอายุ

น่าสังเกตว่าเป็น ต.ตะบิ้ง ตำบลเดียวกับที่เพิ่งเกิดเหตุคนร้ายปาระเบิดเข้าใส่ประชาชนบริเวณหน้ามัสยิดเมื่อไม่กี่วันมานี้ เพียงแต่ต่างหมู่กันเท่านั้น

และแม้ในที่สุดเหตุการณ์อาสาสมัครทหารพรานใช้อาวุธปืนยิงชาวบ้านจะจบลงได้ด้วยดี เพราะฝ่ายเจ้าหน้าที่ยอมรับว่ากระทำการเกินกว่าเหตุจริง และผู้บังคับบัญชาได้พาอาสาสมัครทหารพราน 3 นายที่ปฏิบัติการในคืนวันนั้นเข้ามอบตัวกับพนักงานสอบสวน สภ.สายบุรี กระทั่งล่าสุด “ทีมข่าวอิศรา” ตรวจสอบพบว่าเจ้าหน้าที่ตำรวจได้สรุปสำนวนสั่งฟ้องเจ้าหน้าที่ทั้ง 3 นาย ปัจจุบันคดีอยู่ระหว่างการพิจารณาของอัยการแล้วก็ตาม

ทว่าบรรยากาศคุกรุ่น อึมครึมก็ไม่ได้คลี่คลายไปจาก อ.สายบุรี...



เหตุร้ายอธิบายยาก

กับเหตุการณ์รุนแรงเที่ยวล่าสุดที่เกิดขึ้นถึงหน้ามัสยิด ท่ามกลางสถานการณ์ความไม่สงบที่ทวีความน่าสะพรึงกลัวขึ้นในช่วงนี้ นายลือชัย เจริญทรัพย์ นายอำเภอสายบุรี วิเคราะห์ว่า เหตุการณ์ที่เกิดจากประเด็นความมั่นคงลดจำนวนลง แต่มีสิ่งแปลกปลอมแทรกเข้ามาแทน และสร้างความสับสนให้กับผู้แก้ปัญหามากพอสมควร

“มันเหมือนผูกปมเงื่อนอะไรกันบางอย่าง เช่น กรณีเหตุล่าสุดที่คนร้ายขว้างระเบิดหน้ามัสยิดบ้านตะบิ้ง เหตุการณ์นี้เหมือนคนร้ายเจตนากระทำ แต่โดยปกติกลุ่มขบวนการจริงๆ จะไม่ทำในบ้านของอัลลอฮ์ ยังโชคดีที่ลูกระเบิดไม่เข้าไปในมัสยิด ตกแค่ที่กำแพง สิ่งที่ทำให้เกิดความสับสนคือลักษณะของลูกระเบิด เป็นระเบิดที่ผลิตเอง ตรงนี้ที่ทำให้ผิดเพี้ยนไป”

“ช่วงนี้มีหลายเรืองที่เป็นข้อเคลือบแคลงสงสัยของชาวบ้าน เช่น กรณีการเสียชีวิตของนายสุไลมาน ขณะอยู่ในความควบคุมของเจ้าหน้าที่ (สุไลมานเป็นชาว ต.กะดุนง อ.สายบุรี) สิ่งต่างๆ เหล่านี้ต้องช่วยกันคลี่คลาย ถ้าไม่คลี่คลายมันจะนำไปสู่เงื่อนไข ฉะนั้นต้องทำทุกเรื่องให้กระจ่าง”

“ที่สำคัญคือเรื่องความเป็นธรรม ต้องเริ่มตั้งแต่ความเป็นธรรมในเรื่องข้อมูล ต้องให้ญาติพี่น้องของผู้ถูกจับกุมมีโอกาสได้รับรู้ในฐานะที่เขาเป็นครอบครัวเดียวกัน ก็คือกระบวนการจับกุมเป็นอย่างไร จับไปเพราะมีเหตุสงสัยอะไร ซึ่งจะต้องมีเจ้าหน้าที่ไปเคลียร์ ไปคุย ไปสร้างความเข้าใจ แต่เมื่อไหร่ที่ไปคิดว่ามันไม่เป็นไรๆ อย่างนั้นมันไม่ใช่ และจะสร้างปัญหาตามมา เนื่องจากแต่ละคนมีญาติมีพี่น้อง มันก็จะลาม เป็นเงื่อนไขที่นำไปสู่ความไม่เรียบร้อยได้ แม้ที่ผ่านมาเจ้าหน้าที่จะพยายามเข้าไปสร้างความรู้สึกตรงนี้ แต่ก็ยังช้าอยู่”

นายอำเภอสายบุรี กล่าวอีกว่า เมื่อความรู้สึกของชาวบ้านยังเป็นลบ จึงเปิดช่องให้เกิดเหตุรุนแรงได้ง่ายและถี่ขึ้น

“ฉะนั้นสิ่งที่เราต้องทำคือต้องสร้างความเข้าใจเพื่อยับยั้งการขยายหรือลุกลามของปัญหา เพราะเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในช่วงหลังมันผิดปกติจากที่ผ่านมามากพอสมควร” เขาย้ำพร้อมตั้งข้อสังเกต แต่ก็เชื่อว่าเหตุร้ายที่สายบุรีไม่ใช่การแก้แค้นตอบโต้กันไปมา อาจมีปัญหาเรื่องยาเสพติดบ้าง แต่ประเด็นคือเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเวลานี้ค่อนข้างเชื่อมโยงกัน เชื่อมในลักษณะการกระทำที่ "ตอบคำถามชาวบ้านไม่ได้"



“มือที่สาม”ตอกลิ่ม

นายณัฐวุฒิ อาแวปูเตะ นายกองค์การบริหารส่วนตำบล (อบต.) ตะบิ้ง อ.สายบุรี มองไม่ต่างกันว่า สถานการณ์ในพื้นที่ขณะนี้มีการก่อเหตุในลักษณะสร้างสถานการณ์เพื่อให้เกิดความวุ่นวายอย่างแน่นอน แต่ไม่รู้ว่าเกิดจากฝ่ายไหน

“ชนวนเหตุรุนแรงที่เกิดขึ้นมีทั้งปัญหาการเมือง ยาเสพติด หรือเรื่องส่วนตัวก็มี และการก่อเหตุที่เป็นการต่อต้านอำนาจรัฐก็มี คือตอนนี้เหตุการณ์มันผสมโรงกันทั้งคนก่อเหตุและสาเหตุที่ทำให้เกิดความรุนแรง”

อย่างไรก็ดี นายก อบต.ตะบิ้ง ยังเชื่อว่า ผู้ก่อเหตุไม่น่าจะเป็นเจ้าหน้าที่รัฐ แต่สงสัยว่าเป็นบุคคลที่สามที่ต้องการเข้ามาสร้างความแตกแยกและสร้างความไม่เข้าใจกันระหว่างชาวบ้านกับรัฐ

“ถ้าถามถึงความเป็นอยู่ของชาวบ้านในขณะนี้ ก็ต้องบอกว่ายังอยู่กันได้ แต่เหตุรุนแรงจะเพิ่มขึ้น เพียงแต่ต้องระมัดระวังตัวกันให้มากกว่าเดิม ส่วนความหวาดระแวงก็มีอยู่ตลอดอยู่แล้ว จึงขึ้นอยู่กับบทบาทของเจ้าหน้าที่รัฐ หากเจ้าหน้าที่เข้าถึง ชาวบ้านก็จะเข้าใจและหวาดระแวงน้อยลง แต่เมื่อไหร่ที่เจ้าหน้าที่เข้าไม่ถึง ความหวาดระแวงก็จะมากทันที” นายณัฐวุฒิ กล่าว

นายสมพร สังข์สมบุญ นักวิจัยอิสระที่ทำงานช่วยเหลือชาวบ้านในพื้นที่มานานปลายปี กล่าวว่า เหตุการณ์รุนแรงในช่วงหลังๆ เมื่อลองสังเกตดูดีๆ แล้วพบว่าแปลกไปกว่าในอดีต และไม่สามารถชี้ชัดได้ว่าเกิดจากฝ่ายไหน แต่ก็มั่นใจว่ามีมือที่สามเข้ามาป่วนสถานการณ์ เพื่อคงความรุนแรงในพื้นที่ต่อไป

“สถานการณ์ขณะนี้มีทั้งที่มาจากเรื่องการเมือง ซึ่งรวมถึงการเมืองในส่วนกลางและการเมืองท้องถิ่น เรื่องส่วนตัว เรื่องยาเสพติด และเรื่องของขบวนการ ทำให้เวลาเกิดเหตุก็ยากที่จะวิเคราะห์ได้ว่าเกิดจากฝ่ายไหน มันแตกต่างจากการก่อเหตุเมื่อ 2-3 ปีที่ผ่านมามากทีเดียว” นายสมพร กล่าว



เอ็กซเรย์สายบุรี

อ.สายบุรี เป็นอำเภอติดทะเล อยู่ห่างจากตัวเมืองปัตตานีราว 40-50 กิโลเมตร จัดว่าเป็นพื้นที่ที่มีความอุดมสมบูรณ์มากที่สุดอำเภอหนึ่งในจังหวัดชายแดนภาคใต้ ทั้งยังเป็นหัวเมืองเก่าที่มีความรุ่งเรืองและมีประวัติศาสตร์อันยาวนาน มีสถานที่สำคัญทั้งในทางศาสนา วัฒนธรรม และการปกครองมากมาย

ปัจจุบัน อ.สายบุรี แบ่งเขตการปกครองออกเป็น 11 ตำบล 64 หมู่บ้าน ประกอบด้วย ต.ตะลุบัน ต.ตะบิ้ง ต.ปะเสยะวอ ต.บางเก่า ต.บือเระ ต.เตราะบอน ต.กะดุนง ต.ละหาร ต.มะนังดาลำ ต.แป้น และ ต.ทุ่งคล้า

ตั้งแต่ปี 2547 เป็นต้นมา สายบุรีเป็นหนึ่งในหลายอำเภอที่ถูกจัดให้เป็น “พื้นที่สีแดง” มีสถิติเหตุรุนแรงสูงมาก แม้ในช่วงปี 2551 ที่สถานการณ์ความไม่สงบในภาพรวมเริ่มคลี่คลายลงบ้าง แต่สายบุรีกลับยังตึงเครียดต่อเนื่อง บางเดือนเกิดเหตุถี่ยิบในระดับวันเว้นวันเสียด้วยซ้ำ อย่างเช่นในช่วงปลายปี 2551...

21 ธ.ค. คนร้ายลอบวางระเบิดบริเวณศาลาที่พักริมทาง บริเวณสามแยกบ้านทุ่งน้อย หมู่ 1 ต.ละหาร อ.สายบุรี เพื่อดักสังหารทหารพรานชุดลาดตระเวนที่มักแวะนั่งพักที่ศาลาแห่งนี้เป็นประจำ แรงระเบิดทำให้อาสาสมัครทหารพรานได้รับบาดเจ็บ 1 นาย

22 ธ.ค. เกิดเหตุคนร้ายซุ่มยิงเจ้าหน้าที่ทหารพราน สังกัดร้อย ร.4409 กรมทหารพรานที่ 44 ซึ่งเป็นชุดคุ้มครองรถรับส่งนักเรียน บนทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 42 (ปัตตานี-นราธิวาส) ท้องที่บ้านวังชัย ต.ละหาร อ.สายบุรี เป็นเหตุให้ทหารพรานได้รับบาดเจ็บเล็กน้อย 1 นาย

24 ธ.ค. คนร้ายลอบวางระเบิดภายในโรงเรียนบ้านจะเฆ่ หมู่ 2 ต.แป้น อ.สายบุรี เพื่อดักสังหารทหารหน่วยเฉพาะกิจปัตตานี 26 จำนวน 6 นาย ปฏิบัติหน้าที่คุ้มครองครู ขณะกำลังนั่งพักผ่อนอยู่ที่ม้านั่งหินอ่อนภายในโรงเรียน แรงระเบิดทำให้ทหารได้รับบาดเจ็บ 3 นาย

25 ธ.ค. คนร้ายประกบยิง ร.ต.ต.มาหาหมัดสาเหด อัลยุฟรี อายุ 46 ปี รองสารวัตรสืบสวน สภ.สายบุรี ขณะขี่รถจักรยานยนต์สายตรวจของโรงพักออกจากชุมชนในเขตเทศบาลตำบลตะลุบัน อ.สายบุรี เสียชีวิตคาถนน

29 ธ.ค. คนร้ายจ่อยิง นายสุธรรม ทวีศรี อายุ 41 ปี และ นางโสธิดา สร้อยแก้ว อายุ 26 ปี อากับหลานซึ่งเป็นพนักงานบริษัท ทศท จำกัด (มหาชน) ประจำ อ.สายบุรี ขณะนั่งอยู่บนรถยนต์บริเวณจุดกลับรถบ้านมะนังดาลำ ทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 42 (ปัตตานี-นราธิวาส) ท้องที่หมู่ 1 ต.มะนังดาลำ อ.สายบุรี เสียชีวิตทั้งคู่

และที่สร้างกระแสวิพากษ์วิจารณ์มากที่สุดครั้งหนึ่งก็คือ เหตุการณ์คนร้ายใช้รถกระบะเป็นพาหนะ กราดอาก้าสังหาร นายอับดุลการิม ยูโซ๊ะ อายุ 46 ปี อิหม่ามประจำมัสยิดกาหยี เสียชีวิตบริเวณหน้ามัสยิด บนถนนตะลุบัน ต.ตะลุบัน อ.สายบุรี เมื่อเที่ยงวันที่ 30 ม.ค.2552 โดยอิหม่ามอับดุลการิมเพิ่งออกจากเรือนจำมาไม่ถึง 3 เดือน หลังจากถูกจับกุมในข้อหาครอบครองอาวุธสงคราม และถูกคุมขังระหว่างการพิจารณาคดีนานนับปี กระทั่งถึงที่สุดศาลพิพากษายกฟ้อง

หลายเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ณ อำเภอริมทะเลแห่งนี้นับเป็น “เหตุร้ายอธิบายยาก” และเป็นโจทย์ข้อยากที่รัฐต้องเร่งแก้ เพื่อสถาปนาความสงบสุขให้คืนสู่ดินแดนสายบุรีโดยเร็ว

0 ความคิดเห็น:

About This Blog

รายการบล็อกของฉัน

รายการบล็อก

Our Blogger Templates Web Design

  © Blogger templates The Professional Template by Ourblogtemplates.com 2008

Back to TOP