โจรใต้ดุ!ดักฆ่าเผาพร้อมรถ
โจรใต้ฆ่า -เผาคนงานสยองคารถจยย. เผยขณะกลับจากหาของป่าในเขตรามัน คนร้ายดักซุ่มยิงใส่ก่อนเผาพร้อมรถ ส่วนเขตเมืองยะลาบึ้มทหารชุดลาดตระเวนจนได้รับบาดเจ็บรวม 3 นาย มือระเบิดซุกใต้พื้นถนน ส่วนที่สตูลบุกจับอาร์เคเค แต่ยังปากแข็งให้การปฏิเสธ
เมื่อเวลา 10.50 น. วันที่ 13 มิ.ย. ศูนย์วิทยุ สภ.ลำใหม่ อ.เมือง จ.ยะลา รับแจ้งว่าเกิดเหตุระเบิด บนถนนสายบาตัน-ลิดล หน้าโรงโม่หินศิลาอุตสาหกรรม ม.1 ต.ลิดล อ.เมือง จ.ยะลา มีเจ้าหน้าที่ทหารได้รับบาดเจ็บด้วย หลังรับแจ้งพร้อมด้วยกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจและทหาร และชุดเก็บกู้ระเบิดรีบรุดไปยังที่เกิดเหตุทันที
เมื่อไปถึงที่เกิดเหตุทราบว่ามีเจ้าหน้าที่ทหารถูกระเบิดได้รับบาดเจ็บ 3 นาย ถูกนำตัวส่งโรงพยาบาลศูนย์ยะลา ขณะนี้ยังไม่ทราบชื่อ ส่วนในที่เกิดเหตุเจ้าหน้าที่พบรถยนต์กระบะของเจ้าหน้าที่ทหารพลิกหงาย อยู่ข้างทาง พบสายไฟลากยาวเข้าไปในสวนยางพารา
จากการสอบสวนทราบว่า ขณะที่เจ้าหน้าที่ทหารชุดพัฒนาสันติ 301 (หน่วยรบพิเศษ) ขับรถยนต์กระบะ พอมาถึงที่เกิดเหตุคนร้ายได้กดระเบิดที่ฝังไว้ใต้ผิวถนน น้ำหนักประมาณ 10 ก.ก. จนทำให้ได้รับบาดเจ็บดังกล่าว สำหรับรายชื่อเจ้าหน้าที่ทหารที่ได้รับบาดเจ็บ จำนวน 3 นาย ประกอบด้วย ร.อ.สุวรรณ แสงชาลี หูอื้อ ท้ายทอยบวม ส.อ.มานิตย์ พิมพ์ทุม ได้รับบาดเจ็บสาหัส ถูกสะเก็ดระเบิดที่หน้าและศีรษะ และส.อ.ปรีชา ปัญญา ถูกสะเก็ดระเบิดที่หน้าและศีรษะ
เมื่อเวลา 17.00 น. ศูนย์วิทยุ สภ.รามัน จ.ยะลา รับแจ้งว่า เกิดเหตุยิงกันอยู่บนถนนสาย 4092 เขตรอยต่อระหว่าง บ้านสะโต ม.5 ต.อาซ่อง-บ้านตลาดล่าง ม.6 ต.กายูบอเกาะ อ.รามัน จ.ยะลา หลังรับแจ้งพร้อมด้วยกำลังเจ้าหน้าที่ทหารและตำรวจรีบรุดไปยังที่เกิดเหตุทันที
เมื่อไปถึงที่เกิดเหตุพบศพชายไทย ถูกยิงและเผา ทราบชื่อคือนายประดับ สุวรรณชาตรี อายุ 48 ปี อยู่บ้านเลขที่ 140 หมู่ 6 ต.กายูบอเกาะ อ. รามัน จ.ยะลา เป็นลูกจ้างตามโครงการ 4500 ห่างจากจุดเกิดเหตุเพียงเล็กน้อย พบรถจยย.ยี่ห้อยามาฮ่า รุ่นเก่าไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียน ถูกเผาด้วยเช่นกัน นอกจากนั้นในที่เกิดเหตุยังพบปลอกกระสุนปืนลูกซอง จำนวน 3 ปลอก หมอนรองกระสุนอีก 2 ชิ้น จึงเก็บไว้เป็นหลักฐาน
จากการสอบสวนทราบว่า ขณะที่นายประดับ ขับขี่รถจยย.กลับจากหาของป่า ได้มีคนร้ายไม่ทราบจำนวน ขับขี่รถจยย.ตามหลังมา แล้วใช้อาวุธปืนลูกซองยิงใส่ทำให้เสียชีวิต หลังก่อเหตุคนร้ายได้จุดไฟเผานายประดับและรถจยย. ก่อนหลบหนีไป ส่วนสาเหตุเชื่อเป็นฝีมือพวกก่อความไม่สงบต้องการสร้างสถานการณ์อย่างต่อเนื่อง
ส่วนกรณีคนร้ายขว้างระเบิดใส่ร้านรัชตะกระทะร้อนสี่แยกรัชตะ เลขที่ 159 ถ.เทศบาล 3 และเวลา 19.40 น. คนร้ายได้ขว้างระเบิดใส่ร้านขายข้าวต้ม เลขที่ 6 ถ.รวมมิตร อ.เมือง จ.ยะลา ทำให้มีผู้เสียชีวิต 1 ราย และได้รับบาดเจ็บรวม 26 ราย เมื่อวันที่ 12 มิ.ย.ที่ผ่านมา
ล่าสุด นายกฤษฎา บุญราช ผู้ว่าราชการจังหวัดยะลา เดินทางไปเยี่ยมอาการของผู้ได้รับบาดเจ็บจากเหตุระเบิดดังกล่าว โดยได้เข้าเยี่ยมนายสุนันท์ แก้วรัตน์ ซึ่งได้รับบาดเจ็บสาหัส ไม่รู้สึกตัว ความดันต่ำ ยังคงต้องนอนรักษาตัวอยู่ที่ห้องไอซียู โดยผู้ว่าราชการจังหวัดยะลา ได้มอบเงินช่วยเหลือเยียวยาจากศูนย์ปฏิบัติการเยียวยาฯ จำนวน 50,000 บาท และกระเช้าเยี่ยม ให้ทางญาติของนายสุนันท์ จากนั้น ได้เข้าเยี่ยมอาการของนายอูบัยดิลลาฮ์ มาแฮ ซึ่งได้รับบาดเจ็บจากเหตุระเบิดตรงสี่แยกรัชตะ เพียงรายเดียวพร้อมทั้งได้มอบเงินช่วยเหลือเยียวยา จำนวน 10,000 บาท และกระเช้าเยี่ยม เพื่อให้กำลังใจ
นายอูบัยดิลลาฮ์ เล่าให้ผู้ว่าฯ ยะลา ฟังว่า ตนเองไปซื้อของที่ใกล้จุดเกิดเหตุทำให้โดนระเบิดที่คนร้ายขว้างใส่ จากนั้น ผู้ว่าราชการจัง หวัดยะลา ยังได้เยี่ยมและมอบเงินช่วยเหลือเยียวยาให้แก่ นายพงษ์เทพ แซ่ซิ้ม นายกิตติศักดิ์ ประเทืองวิจิตรกุล นายนเรศ พันมี นายสมเกียรติ รัตนะโดยขณะนี้ยังเหลือผู้ป่วยที่ยังคงพักรักษาตัวที่ร.พ.ศูนย์ยะลา รวมทั้งสิ้น 6 ราย อยู่ที่ร.พ. มอ.หาดใหญ่ 1 ราย คือ นายอภินันท์ ภัทรศรศิริกุล ส่วนที่เหลือ จำนวน 17 ราย แพทย์ได้อนุญาตให้กลับบ้านได้
หลังจากนั้น ผู้ว่าราชการจังหวัดยะลา เดินทางไปที่มูลนิธิแม่กอเหนี่ยวยะลา ศาลา 4 เพื่อเป็นประธานในพิธีรดน้ำศพ นายคงศักดิ์ แซ่ตัน อาสาสมัครป้องกันภัยฝ่ายพลเรือน เทศบาลนครยะลา (อปพร.) ที่เสียชีวิตจากเหตุระเบิดตรงบริเวณร้านขายข้าวต้ม ถนนรวมมิตร อ.เมือง จ.ยะลา พร้อมทั้งได้มอบเงินช่วยเหลือเยียวยา จำนวน 200,000 บาท ให้แก่มารดาของนายคงศักดิ์
นายกฤษฎา บุญราช ผู้ว่าราชการจังหวัดยะลา กล่าวว่า สำหรับเหตุระเบิด 2 จุด ที่เกิดขึ้นในเขตเทศบาลนครยะลา ตนเองในฐานะผู้ว่าราชการจังหวัดยะลา ต้องขอประทานโทษต่อพ่อแม่พี่น้องประชาชนชาวยะลา ที่ไม่สามารถปกป้องชีวิตและทรัพย์สินของชาวยะลาได้ แต่อย่างไรก็ตามตนเองขอประณามคนร้ายที่ก่อเหตุเช่นนี้ ทำให้ผู้บริสุทธิ์หลายสิบคนต้องเสียชีวิตและบาดเจ็บ ซึ่งถ้าหากประชาชนท่านใดไม่ได้รับความเป็นธรรมจากทางราชการ ขอให้มาบอกกับตนเพื่อจะได้เข้าไปช่วยเหลือ แก้ไข และให้ความเป็นธรรม ขออย่างเดียวอย่ามาแก้แค้นก่อเหตุร้าย ซึ่งจะทำให้ผู้ที่ไม่เกี่ยวข้องต้องมาเดือดร้อนจากการกระทำของท่าน และขอให้หยุดการกระทำนั้น หยุดตอบโต้ หยุดแก้แค้น เพื่อความสงบสุขของพี่น้องชาวยะลา
เมื่อเวลา 09.00 น. ร.ต.ท.สมคิด อ่อนจันทร์ พนักงานสืบสวน สภ.โคกโพธิ์ พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐาน ภ.จว.ปัตตานี เข้าตรวจสอบที่เกิดเหตุคนร้ายใช้ระเบิดขว้างใส่ร้านอาหารเพื่อนกลางวันคาราโอเกะ ตั้งอยู่ที่ ม.6 ต.นาเกตุ อ.โคกโพธิ์ ทำให้มีผู้บาดเจ็บ 1 ราย และข้าวของภายในร้านได้รับความเสียหาย โดยเหตุดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อคืนที่ผ่านมา ในที่เกิดเหตุเจ้าหน้าที่พบกระเดื่องระเบิด ชนิดเอ็ม 67 และสะเก็ดระเบิดจำนวนหนึ่ง จึงเก็บไว้เป็นหลักฐาน สำหรับประเด็นสาเหตุเจ้าหน้าที่เชื่อว่าเป็นฝีมือของกลุ่มผู้ก่อเหตุรุนแรงที่ต้องการสร้างสถาน การณ์ในพื้นที่ ส่วนอาการผู้ได้รับบาดเจ็บ นายสนิท ด้วงเล็ก อายุ 39 ปี อยู่บ้านเลขที่ 50/2 ม.4 ต.มะกรูด อ.โคกโพธิ์ ซึ่งป็นลูกเขยเจ้าของร้าน ถูกสะเก็ดระเบิดบริเวณลำตัว ขาขวาและเท้าขวาขณะนี้รักษาตัวอยู่ที่ร.พ.โคกโพธิ์ อาการปลอดภัยแล้ว
สอบสวนทราบว่า ร้านดังกล่าวเป็นของ นางประทีป อินทกลม อายุ 50 ปี โดยก่อนเกิดเหตุ ขณะที่นายสนิทกำลังดูแลความเรียบร้อยอยู่ภายในร้าน ได้มีคนร้าย 2 คน ใช้รถจักรยาน ยนต์เป็นพาหนะขับผ่านหน้าร้านพร้อมใช้ระเบิดชนิดขว้างปาใส่จนเกิดระเบิดขึ้นหลังก่อเหตุได้หลบหนีไปตามเส้นทางสายนาเกตุ-นาประดู่ หลังเกิดเหตุเจ้าหน้าที่ได้มีการสนธิกำลัง 3 ฝ่ายตั้งจุดตรวจจุดสกัดเพื่อติดตามไล่ล่าคนร้ายแต่ไม่พบเบาะแสของคนร้ายแต่อย่างใด
เมื่อเวลา 09.00 น. จากการสืบทราบของนายมานิต วัฒนเสน ปลัดกระทรวงมหาดไทยว่านายมาหามะพาริ บือแน สมาชิกกลุ่มผู้ก่อเหตุความรุนแรงระดับครูฝึกอาร์เคเค มาหลบซ่อนตัวอยู่ในพื้นที่ ต.น้ำผุด อ.ละงู จ.สตูล เพื่อขยายพื้นที่ก่อเหตุ จึงสั่งการให้นายสุเมธ ชัยเลิศวณิชกุล ผู้ว่าราชการจังหวัดสตูล ดำเนินการตรวจสอบจับกุม จากนั้นจึงสั่งให้ พ.ต.ท.เยื้อน เพชรชนะ สว.สภ. เขาขาว และเจ้าหน้าที่ชุดเฉพาะกิจ ของผู้ว่าราชการจังหวัดสตูล ออกสืบสวนหาข่าวจนทราบว่านายมาหามะพาริ ซึ่งได้เปลี่ยนชื่อเป็นนายไพศาล บือแน อายุ 31 ปี บุคคลตามหมายจับของศาลจังหวัดปัตตานี ได้เดินทางกลับมาที่บ้านเลขที่ 118 ม.11 ต.น้ำผุด อ.ละงู จ.สตูล จากนั้นติดตามไปตรวจสอบและพบนายมาหามะพาริ หรือไพศาล บือแน อายุ 31 ปี อยู่บ้านเลขที่ 118 ม.11 ต.น้ำผุด อ.ละงู จ.สตูล ผู้ต้องหาตามหมายจับได้เดินอยู่บนถนนในหมู่บ้านวังยาว ม.11 ต.น้ำผุด อ.ละงู จ.สตูล จึงได้เข้าดำเนินการจับกุมและควบคุมตัว ดำเนินคดีในข้อหา ร่วมกันฆ่าและพยายามฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อน มีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต พาอาวุธไปในเมืองหมู่บ้านหรือทางสาธารณะโดยไม่มีเหตุอันควรและความจำเป็นเร่งด่วน และร่วมกันก่อการร้าย เหตุเกิดที่ถนนสายมายอ-ทุ่งยางแดง บ้านเจาะบาแน ม.6 ต.ลุโบะอิไร อ.มายอ จ.ปัตตานี เมื่อ 8 ก.ค. 51 เวลา 07.30 น.
ผู้ต้องหาให้การปฏิเสธและว่า ก่อนเดินทางเข้ามาที่บ้านในพื้นที่ต.น้ำผุด อ.ละงู และถูกจับกุมนั้น ตนได้เดินทางไปรับจ้างกรีดยางในประเทศมาเลเซียมาเป็นเวลา 4 ปีแล้ว และคิดที่จะกลับมาอยู่บ้านแต่มาถูกจับกุมดังกล่าว อย่างไรก็ตามทางเจ้าหน้าที่ตำรวจปัตตานี จะได้เดินทางมารับตัวไปดำเนินคดีตามกฎหมายที่จ.ปัตตานี
0 ความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น