เยียวยาไร้หลัก เหยื่อ4ศพไฟใต้ 7ล.ไม่ได้ทุกคน
สภากลาโหมรับทราบผลสอบเหตุยิง 4 ศพหนองจิก ส่ง 4 ทหารพรานดำเนินคดีตาม กม. พร้อมเยียวยาจิตใจเหยื่อ แจง 7 ล้านไม่ได้ทุกคน ชี้ต้องทำเกินกว่าเหตุหรือละเมิดสิทธิมนุษยชน "บิ๊กโอ๋" ลั่นอย่าเอาแต่ได้ ขนาดทหารยังไม่ได้รับ "ยงยุทธ" ยัน 4 ศพฝีมือ จนท.รัฐเยียวยาแน่นอน เมื่อวันที่ 22 มีนาคม พ.อ.ธนาธิป สว่างแสง โฆษกกระทรวงกลาโหม แถลงผลการประชุมสภากลาโหมที่มี พล.อ.อ.สุกำพล สุวรรณทัต รมว.กลาโหม เป็นประธานการประชุม โดยมี ผบ.เหล่าทัพเข้าร่วมประชุมอย่างพร้อมเพรียงว่า ที่ประชุมรายงานเกี่ยวกับสถานการณ์ในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ รวมถึงการสูญเสียของประชาชนในพื้นที่ อ.หนองจิก จ.ปัตตานี 4 ศพ อันเนื่องมาจากการปฏิบัติหน้าที่ของเจ้าหน้าที่รัฐ รวมถึงมาตรการการเยียวยา ซึ่งได้ดำเนินการสอบสวนจนได้ข้อยุติจากคณะกรรมการ 2 ชุด โดยคณะกรรมการชุดที่ 1 ซึ่งมีรองผู้อำนวยการรักษาความมั่นคงภายใน (กอ.รมน.) ภาค 4 ส่วนหน้า เป็นประธาน มีข้อเสนอให้ส่งเจ้าหน้าที่ทหารพราน สังกัดกองร้อยทหารพรานที่ 4302 ทั้ง 4นาย เข้าสู่กระบวนการยุติธรรมตามกฎหมาย และดูแลผู้ที่ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์อย่างใกล้ชิด โดยเฉพาะการเยียวยาด้านจิตใจเพื่อมิให้เกิดเป็นเงื่อนไขในพื้นที่ ส่วนคณะกรรมการชุดที่ 2 มีนายแวดือราแม มะมิงจิ ประธานคณะกรรมการอิสลามประจำจังหวัดปัตตานี ทำหน้าที่ประธานกรรมการสอบสวน มีผลการสอบสวนว่า ชาวบ้านที่ได้รับบาดเจ็บและเสียชีวิตไม่ใช่คนร้าย แม้จากคำให้การทั้งหมดบ่งชี้ว่าผู้ใช้อาวุธทำให้ชาวบ้านบาดเจ็บและเสียชีวิตเป็นเจ้าหน้าที่รัฐก็ตาม แต่ยังต้องติดตามต่อไปว่าเจตนาการยิงของเจ้าหน้าที่เป็นอย่างไร และกระทำเกินกว่าเหตุหรือไม่ ทั้งนี้ กอ.รมน.ภาค 4 ส่วนหน้า ได้ดำเนินการตามข้อเสนอแนะดังกล่าวแล้ว รวม 8 ข้อ คือ 1.ให้ผู้กระทำผิดยอมรับความจริงและขอโทษ พร้อมกับออกมาแถลงความจริงต่อสาธารณชน 2.ให้เยียวยาหรือพัฒนาคุณภาพชีวิตผู้ที่ได้รับผลกระทบอย่างเต็มที่และต่อเนื่อง 3.ให้นำผู้กระทำผิดเข้าสู่กระบวนการยุติธรรม 4.ให้มีการตรวจพิสูจน์ทางนิติวิทยาศาสตร์ 5.การนำคนเจ็บส่งโรงพยาบาล รวมทั้งการตรวจชันสูตรศพให้เวลานานมาก ผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องควรคำนึงถึงจริยธรรมในการให้ความช่วยเหลือผู้บาดเจ็บให้มากกว่านี้ 6.ให้กำหนดมาตรการการใช้อาวุธให้รัดกุม 7.ให้ทำความเข้าใจต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น และ 8.ให้จัดชุดแพทย์เคลื่อนที่เร็วพร้อมเข้าไปช่วยเหลือผู้ถูกทำร้ายในที่เกิดเหตุ พ.อ.ธนาธิปกล่าวว่า ผลการพิจารณาของคณะกรรมการฯ จะไม่มีผลต่อรูปคดี ซึ่งจะดำเนินการไปตามกระบวนการยุติธรรม ปัจจุบันอยู่ในขั้นตอนของพนักงานสอบสวน และการตัดสินของศาลที่จะพิพากษาตามพยานหลักฐาน อย่างไรก็ตาม ในการปฏิบัติภารกิจยังยืนยันกับประชาชนว่า เจ้าหน้าที่ทุกนายมีความมุ่งมั่นที่จะทำให้ดีที่สุด เพื่อดูแลความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินของประชาชนผู้บริสุทธิ์ และจะปฏิบัติตามหลักสิทธิมนุษยชนและหลักกฎหมายอย่างเคร่งครัดต่อไป สำหรับการช่วยเหลือเยียวยาเป็นไปตามระเบียบคณะกรรมการยุทธศาสตร์ด้านการพัฒนาจังหวัดชายแดนภาคใต้ว่าด้วยการให้ความช่วยเหลือเยียวยาผู้ได้รับความเสียหายและผู้ได้รับผลกระทบจากการกระทำของเจ้าหน้าที่ของรัฐอันสืบเนื่องมาจากเหตุการณ์ความไม่สงบในจังหวัดชายแดนภาคใต้ พ.ศ.2555 ที่กำหนดไว้ ซึ่งเบื้องต้นศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ (ศอ.บต.) ได้มอบเงินเยียวยาให้กับญาติของผู้เสียชีวิตทั้ง 4 ราย รายละ 5 แสนบาทแล้ว "ขั้นตอนต่อไป คณะกรรมการยุทธศาสตร์ฯ และ ศอ.บต.จะร่วมพิจารณาว่าเจ้าหน้าที่ของรัฐได้ละเมิดสิทธิมนุษยชนหรือไม่ เพื่อเป็นการคุ้มครองสิทธิมนุษยชนเฉพาะกรณี โดยให้ช่วยเหลือเยียวยาเพิ่มเติมอีกไม่เกินรายละ 7 ล้านบาท ประชาชนในพื้นที่ยังเข้าใจคลาดเคลื่อนในเรื่องของการเยียวยา ซึ่งเรื่องเงิน 7 ล้านบาท ไม่ใช่ว่าทุกคนจะได้ แต่จะต้องดูว่าเรื่องดังกล่าวเป็นการกระทำของเจ้าหน้าที่ทำเกินกว่าเหตุ หรือละเมิดสิทธิมนุษยชนหรือไม่" พ.อ.ธนาธิประบุ พล.อ.อ.สุกำพลกล่าวว่า การเยียวยาผู้ที่เสียชีวิต 4 ศพนั้น เป็นเรื่องของคณะกรรมการฯ เป็นผู้พิจารณาว่าเข้าข่ายที่จะได้รับเงินเยียวยา 7 ล้านหรือไม่ ซึ่งคงเป็นไปตามกติกา ส่วนที่มีชาวบ้านพื้นที่ออกมาเรียกร้องในความไม่เท่าเทียมของการเยียวยานั้น ทุกอย่างมีขั้นตอนอยู่แล้ว คนเรียกร้องก็สามารถทำได้ ซึ่งทั้งหมดขึ้นอยู่กับคณะกรรมการฯ ว่าจะทำอย่างไร ไม่ใช่จะเอาอย่างเดียว ทหารยังไม่ได้อย่างนั้นเลย ดังนั้นทุกคนจะต้องเคารพกติกา นายยงยุทธ วิชัยดิษฐ รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.มหาดไทย ในฐานะประธานคณะกรรมการประสานและติดตามผลการดำเนินงานตามข้อเสนอแนะของคณะกรรมการอิสระตรวจสอบและค้นหาความจริงเพื่อการปรองดองแห่งชาติ (ปคอป.) กล่าวว่า ผู้เสียชีวิต 4 รายที่ อ.หนองจิก ชัดเจนว่าต้องได้รับเงินเยียวยา เพราะกองทัพบกออกมายอมรับว่าเป็นความผิดพลาดของเจ้าหน้าที่ทหารพราน ซึ่งจะได้ทำการจ่ายต่อไป โฆษกกระทรวงกลาโหมแถลงด้วยว่า ในช่วงเทศกาลสงกรานต์ ระหว่างวันที่ 13-16 เม.ย.นี้ ซึ่งมีประชาชนเดินทางกลับภูมิลำเนาจำนวนมากนั้น พล.อ.อ.สุกำพลได้ขอให้หน่วยขึ้นตรงกระทรวงกลาโหมและเหล่าทัพ เพิ่มมาตรการในการสกัดกั้นการลักลอบขนย้ายยาเสพติดและสิ่งผิดกฎหมาย โดยเฉพาะบริเวณตามแนวชายแดน เข้มงวดกวดขันการรักษาความปลอดภัยที่ตั้ง และพื้นที่รับผิดชอบของทุกหน่วย โดยเฉพาะในพื้นที่ซึ่งเป็นเป้าหมายสำคัญ เพื่อป้องกันและลดความสูญเสียชีวิตและทรัพย์สิน.
0 ความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น