โจรปรับกลยุทธ์ดักฆ่าปล้นอาวุธBRNบี้ไทยพุทธ

โจรใต้ปรับกลยุทธ์ดักทำร้ายเจ้าหน้าที่รัฐพร้อมยึดอาวุธปืน รายแรกยิงถล่ม อส.อำเภอโคกโพธิ์เสียชีวิตคาที่ ก่อนหยิบปืนอาก้าหลบหนี อีกจุดตามประกบยิงผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้าน ต.รือเสาะ ยึดปืนสั้น 9 มม.ไป หน่วยข่าวแย้มแผนขบวนการบีอาร์เอ็นฯ เร่งก่อความรุนแรง หวังกดดันคนไทยพุทธอพยออกจากพื้นที่หมดภายในปี 2557 เหตุการณ์ความรุนแรงในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ยังคงเกิดขึ้นรายวัน โดยล่าสุดเวลา 07.00 น. วันที่ 25 มี.ค. ร.ต.ท.อุกฤษฎ์ สังฆะมณี ร้อยเวร สภ.รือเสาะ จ.นราธิวาส รับแจ้งมีคนถูกยิงเสียชีวิตบนถนนสายบ้านยาแลเบาะ-บ้านปือแนรายอ หมู่ 5 ต.รือเสาะ อ.รือเสาะ จึงรายงาน พ.ต.อ.นันทเดช ย้อยนวล รอง ผบก.ภ.จ.นราธิวาส, พ.ต.อ.สะท้านฟ้า วามะสิงห์ ผกก.สภ.รือเสาะ นำกำลังตำรวจ ทหาร เดินทางไปตรวจสอบ จุดเกิดเหตุพบศพนายอดิศักดิ์ ตาเย๊ะ อายุ 53 ปี อยู่บ้านเลขที่ 18 หมู่ 1 ต.รือเสาะ อ.รือเสาะ ซึ่งเป็นผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้านท่าเรือ หมู่ 1 ต.รือเสาะ และอดีต อส.อ.รือเสาะ นอนจมกองเลือดเสียชีวิตอยู่ข้างรถจักรยานยนต์ฮอนด้า รุ่นเวฟ สีดำ หมายเลขทะเบียน ขจม-151 นราธิวาส โดยมีบาดแผลถูกยิงด้วยกระสุนปืนพกสั้นไม่ทราบขนาดที่กลางหลัง 1 นัด สีข้างขวา 2 นัด และสะโพกขวา 1 นัด รวม 4 นัด สอบสวนทราบว่า ก่อนเกิดเหตุผู้ตายได้ขี่รถออกจากบ้านพักตามลำพังเพื่อนำอาหารไปจำหน่ายตามร้านค้าต่างๆ แล้วเสร็จได้ขี่รถกลับบ้านพัก เมื่อถึงที่เกิดเหตุได้มีคนร้ายจำนวน 2 คนขี่รถจักรยานยนต์ตามประกบ เมื่อสบโอกาสคนซ้อนท้ายจึงใช้อาวุธปืนพกสั้นยิงกระหน่ำใส่ผู้ตาย จนรถเสียหลักล้มคว่ำลง จากนั้นคนร้ายได้ลงจากรถแล้วเดินไปหยิบเอาอาวุธปืนพกสั้นขนาด 9 มม.ของผู้ตายที่เหน็บไว้ที่เอวหลบหนีไปด้วย วันเดียวกัน น.อ.สมเกียรติ ผลประยูร ผู้บังคับการหน่วยเฉพาะกิจนาวิกโยธินภาคใต้ ค่ายจุฬาภรณ์ อ.เมืองฯ จ.นราธิวาส ได้เดินทางไปยังโรงเรียนบ้านดูกูสุเหร่า ม.7 ต.บาเจาะ อ.บาเจาะ เพื่อพบปะเยี่ยมเยียนพัฒนาสัมพันธ์กับผู้นำศาสนา ผู้นำท้องถิ่น กลุ่มสตรีและเด็กนักเรียนโรงเรียนสอนศาสนา ตามโครงการเดินเท้าสู่ชุมชนซึ่งเปรียบเสมือนพ่อห่วงใยลูก ด้วยการเข้าไปรับฟังความคิดเห็นตามต้องการ ที่จะให้เจ้าหน้าที่ทหารฟื้นฟู ซ่อมสร้างชุมชนให้มีความเข้มแข็งแบบยั่งยืน จนชาวบ้านสามารถอยู่และดูแลตนเองได้ หลังจากที่ในอดีตหมู่บ้านดังกล่าวเป็นหมู่บ้านที่ตั้งอยู่ในพื้นที่สีแดง ชาวบ้านต้องอยู่กันด้วยความหวาดระแวง ซึ่งการเดินทางเข้าหมู่บ้านของ น.อ.สมเกียรติ ในครั้งนี้ ได้นำคณะแพทย์ออกให้การรักษาและบริการสุขภาพของราษฎร การจัดช่างให้บริการซ่อมรถ จยย. การให้บริการตัดผม รวมทั้งการนำเครื่องเล่นไปสร้างรอยยิ้มให้กับเยาวชน พร้อมทั้งได้มอบเครื่องอุปโภค-บริโภคให้กับพลังมวลชนเพื่อเป็นการปูพื้นฐานให้ชาวบ้านและเยาวชนรุ่นใหม่มีทัศนคติที่กว้างไกลและไม่หวั่นไหวต่อการถูกกลุ่มผู้ไม่หวังดีปลุกระดมมวลชนให้ต่อต้านการพัฒนาหมู่บ้านให้กลับกลายสภาพเป็นหมู่บ้านสีเขียว ที่สำคัญเป็นบันไดก้าวแรกที่นำไปสู่การตัดความเคลื่อนไหวของกลุ่มผู้ไม่หวังดีที่แอบแฝงตัวเคลื่อนไหวในหมู่บ้านให้หมดสิ้นไปโดยปริยาย ที่ จ.ปัตตานี เวลา 10.00 น. พ.ต.อ.ระพีพงษ์ สุขไพบูลย์ ผกก.สภ.โคกโพธิ์ จ.ปัตตานี นำกำลังเข้าไปตรวจที่เกิดเหตุคนร้ายขับรถกระบะใช้อาวุธสงครามยิงถล่ม อส.มาหาหมัด ดือเระ อายุ 59 ปี อาสารักษาดินแดนที่ว่าการอำเภอโคกโพธิ์ จ.ปัตตานี ขณะขับรถยนต์โตโยต้า สีน้ำเงิน หมายเลขทะเบียน บต.604 ปัตตานี เดินทางเข้าสับเปลี่ยนเวรในหมู่บ้านใช้เส้นทาง นาเกตุ-คลองช้าง ต.นาเกตุ อ.โคกโพธิ์ จ.ปัตตานี บริเวณ ม.4 บ.คลองช้าง ต.นาเกตุ จน อส.มาหาหมัดเสียชีวิตและหยิบเอาอาวุธปืนยาวของ อส.มาหามัดไปด้วย เมื่อช่วงเวลา 00.10 น.วันที่ 25 มี.ค.ที่ผ่านมา เพื่อเก็บปลอกกระสุนและหาร่องรอยหลักฐานต่างๆ นอกจากนี้ พล.ต.ต พิเชษฐ์ ปิติเศรษฐพันธ์ ผบก.ภ.จว.ปัตตานี ยังได้สั่งการให้ พ.ต.อ ระพีพงษ์ สุขไพบูลย์ ผกก.สภ.โคกโพธิ์, พ.ต.อ ชนวีร์ ชมาฤกษ์ ผกก.สภ.หนองจิก พร้อมกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจ ทหาร ฝ่ายปกครอง เข้าทำการปิดล้อมบริเวณป่าสวนยาง ม.3 บ.ไผ่มัน ต.บ่อทอง อ.หนองจิก หลังได้รับแจ้งจากสายข่าวว่ามีรถยนต์ต้องสงสัยคล้ายคันที่ก่อเหตุยิง อส.มาหาหมัดเข้ามาในพื้นที่ จากการตรวจค้นพบถุงผ้าซุกในพุ่มไม้ เมื่อเปิดดูพบว่ามีอาวุธปืนอาก้า 1 กระบอก ซึ่งเป็นของคนร้ายที่ใช้ยิง อส.มาหาหมัด อาวุธปืนอาก้ารุ่นใหม่ 1 กระบอกพร้อมกระสุน 59 นัด ซึ่งเป็นของ อส.อาหาหมัด กระสุนปืนขนาด 7.62 จำนวน 13 นัด เจ้าหน้าที่จึงนำไปตรวจสอบเพื่อหารอยนิ้วมือแฝง คาดรู้ตัวคนร้ายแน่ อย่างไรก็ตามเจ้าหน้าที่เชื่อคนร้ายน่าจะเป็นกลุ่มแนวร่วมในพื้นที่เฝ้าดูความเคลื่อนไหวของผู้ตายมาตลอดเมื่อสบโอกาสจึงก่อเหตุสร้างสถานการณ์ มีรายงานจากเจ้าหน้าที่งานการข่าวความมั่นคงในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ ประเมินสถานการณ์ในพื้นที่ภาคใต้ว่า ขณะนี้ขบวนการก่อความไม่สงบจังหวัดชายแดนภาคใต้ยังคงปฏิบัติการเชิงรุกอย่างต่อเนื่องโดยใช้กลยุทธ์ต่างๆ เพื่อให้ชาวไทยที่นับถือศาสนาพุทธเคลื่อนไหวออกจากพื้นที่ ทั้งเขตเมืองและเขตรอบนอก โดยจะให้อพยพหมดไปในระยะปี 2557 นี้ โดยมีการตั้งเป้าหมายจากเขตเทศบาลรอบนอกและองค์การบริหารส่วนตำบล ก่อนขยายเข้าสู่เขตเทศบาลเมือง หน่วยข่าวระบุว่า นอกจากนั้นยังมีข้อมูลว่ากลุ่มก่อความไม่สงบมีเป้าหมายกว้านซื้อที่ดินบริเวณพื้นที่รอบวัดช้างให้ อ.โคกโพธิ์ จ.ปัตตานี ซึ่งเป็นศาสนสถานสำคัญศักดิ์สิทธิ์เป็นที่เคารพบูชาสำคัญของคนไทยพุทธทั่วประเทศ โดยเฉพาะในพื้นที่จังหวัดภาคใต้และประชาชนจากประเทศมาเลเซีย เพื่อเป็นการปิดล้อมพื้นที่ไปโดยปริยาย "ตอนนี้ขบวนการกลุ่มก่อความไม่สงบได้ขยายแนวร่วมรุ่นใหม่ได้เพิ่มขึ้นมาก ซึ่งส่วนใหญ่จะเป็นบุคคลสวมหมวก 2 ใบ ใบหนึ่งอยู่กับภาครัฐ ทั้งเป็นเจ้าหน้าที่ อาสาสมัครประเภทต่างๆ ตลอดจนโครงการส่งเสริมต่างๆ ของรัฐที่ดำเนินการพัฒนาเข้าไปทั้งชายและหญิง ส่วนใบหนึ่งก็ไม่ปฏิเสธขบวนการบีอาร์เอ็น โคออร์ดิเนต รวมทั้งขบวนการบีอาร์เอ็น โคออร์ดิเนตนี้ก็ได้พัฒนากองกำลังหน่วยรบ โดยถูกยกฐานะให้มีตำแหน่ง มีชั้นยศตามลำดับไม่ต่างกับภาครัฐ และจะเป็นที่นิยมของประชาชนถึงกับมีการยกบุตรสาวให้เป็นคู่ครองก็มี” แหล่งข่าวด้านความมั่นคงภาคใต้ระบุ.