ทหารพรานถูกซ้อมปางตายในเรือนจำ

อาการทหารพราน ที่ถูกซ้อมในเรือนจำยังสาหัส ญาติไม่เชื่อว่าจะเป็นเรื่องทะเลาะวิวาทธรรมดา ไม่อยากเชื่อว่าจะเกิดเหตุร้ายแรงในเรือนจำ ทั้งที่ยอมรับผิดแล้ว ตำรวจเร่งสอบสวน หาเบาะแสผู้ก่อเหตุ ความคืบหน้า กรณี 2 ทหารพราน ซึ่งก่อเหตุยิงชาวบ้าน และถูกจับเข้าเรือนจำถูกผู้ต้องขังซ้อมจนได้รับบาดเจ็บสาหัส และเสียชีวิต ตามที่เสนอข่าวไปนั้น คืบหน้าล่าสุด วันนี้ ( 24 มี.ค.) ผู้สื่อข่าวได้รายงานสภาพอาการโดยรวมของ อส.ทพ. สุทธิชากร รามแก้ว อายุ 22 ปี หนึ่งใน 2 เจ้าหน้าที่ที่ ยังคงนอนรักษาตัวอยู่ใน ห้องกระจกอาคารตึกอุบัติเหตุ ในสภาพสะบักสะบอมใบหน้า มีรอยฟกช้ำไปทั่วใบหน้า บริเวณศรีษะแตกเป็นแผลฉกรรจ์ต้องเย็บถึง 4 เข็ม มีรอยเขียวช้ำบริเวณหน้าอก และร่างกายหลายแห่ง และมีเลือดคั่งจนต้องเจาะเพื่อระบายเลือดออก นอกจากนั้นบริเวณแขน ลำตัวมีรอบถูกแทงด้วยของมีคม จำนวน 6 รู อาการสาหัส ไม่สามารภให้การได้ โดยมีพ่อแม่ และพี่สาว คอยช่วยเฝ้าดูแลอย่างใกล้ชิด ขณะเดียวกันตำรวจ สภ.เมือง ปัตตานี 2 คน และเจ้าหน้าที่เรือนจำ 1 คน เฝ้าหน้าอาคารตลอด 24 ชั่วโมง เพื่อดูแลความปลอดภัย นางอรอุมา มุกดาหาร พี่สาวของทหารพรานที่บาดเจ็บ เผยว่า ไม่อยากจะเชื่อว่าน้องชายจะถูกทำร้ายในเรือนจำ คือเข้าใจว่าเหตุการณ์ที่น้องได้กระทำผิด คือยิงคนขับรถตู้ นั้นก็ต้องว่าไปตามความผิด จึงไม่ได้ประกันตัว เพราะตั้งใจให้เป็นอำนาจของศาล และคิดว่าในเรือนจำน่าปลอดภัยมากว่ากว่าจึงไม่ประกันตัว แต่สื่งที่ไม่คาดคิด เมื่อยู่ในเรือนจำเพียงคืนเดี่ยว ตนและแม่ไปเยี่ยมที่เรือนจำ น้องก็บอกว่าอยู่สบาย ไม่รู้จักใคร ไม่มีศัตรูที่ไหน ประกอบกับ น้องเป็นคนพูดน้อยและนิสัยไม่ได้อันธพาล แต่กลับต้องมาถูกทำร้ายเช่นนี้ ตนคิดว่ากรณีที่เกิดขึ้นไม่ใช่การทะเลาะวิวาทธรรมดาเพราะถึงขั้น มีคนตาย ถ้าน้องชายกลับอยู่ในเรือนจำอีกครั้ง ใครจะรับประกันความปลอดภัย ตนเข้าใจทุกฝ่ายดี แต่ขอความกรุณาช่วยด้วยว่า ถ้าน้องทำผิดก็ว่าตามความผิด ไม่ใช่น้องมารับโทษอย่างนี้ แค่เข้าเรือนจำเพียงคืนเดียว น้องถูกแทง 6 รู ที่ คอ ศรีษะถูกของหนักตี อาการก็ปางตาย ตนไม่คิดเลยว่าเรือนจำไม่ปลอดภัย น้องชายเป็นทหารพราน น้องทำผิดก็รับผิดไปแล้ว แต่ไม่น่าจะต้องรับโทษเช่นนี้ ควรปล่อยให้มีการตามกระบวนการยุติธรรม เพราะบ้านเมืองมีกฎหมายอยู่ ขอฝากให้ตำรวจช่วยดำเนินการกับคนที่ทำร้ายน้องชายอย่างเต็มที่แม้จะถูกคุมขังอยู่ก็ตาม พ.ต.อ. สมพร มีสุข ผกก.สภ.เมือง ปัตตานี เปิดเผยว่า ผู้บังคับบัญชาได้ให้ความสำคัญกับคดีที่เกิดขึ้น โดยตั้งคณะกรรมการติดตามคดีโดยให้ รอง ผกก.ส.ส. เรียกบุคคลที่เกี่ยวข้องภายในเรือนจำ ที่เป็นเจ้าหน้าที่ที่รับผิดชอบช่วงที่เกิดเหตุดังกล่าว มาทำการสอบสวน ขณะนี้ตนได้ประสานไปแล้ว ยังไม่ได้รับการตอบรับ ว่าเดินทางมาให้สอบปากคำเมื่อไหร่ ซึ่งคาดว่าวันจันทร์ ที่ 26 มีนาคม ซึ่งเป็นวันราชการ จะทำการติดต่ออีกครั้งหนึ่ง โดยจะทำการสอบสวนข้อเท็จจริง ช่วงก่อนเกิดเหตุ และเกิดเหตุ มีผู้ต้องขังคนไหนที่เริ่มต้นก่อน เชื่อว่าคงไม่ยาก นอกจากนั้น เชื่อว่าถ้ามีกล้องวงจรปิดก็ยิ่งทำงานง่ายขึ้น ก็ต้องดำเนินการให้ความเป้นธรรมขณะเดียวกันได้จัดตำรวจ 2 คน สลับเปลี่ยนดูแลควาปลอดภัย ผู้บาดเจ็บในโรงพยาบาล24 ชั่วโมง