วันเสาร์, มีนาคม 17, 2555

เปิดผลสอบล่าสุด 4 ศพปัตตานี..."สำคัญผิด" ทำชาวบ้านดับ

คณะกรรมการอิสระตรวจสอบข้อเท็จจริงปม 4 ศพปุโละปุโย ประชุมนัดสุดท้ายสรุปรายงานเตรียมเสนอแม่ทัพ การันตีชาวบ้านเป็นผู้บริสุทธิ์ ไม่พบประวัติเชื่อมโยงก่อความไม่สงบ และไม่มีหลักฐานการใช้อาวุธ ส่วนทหารพราน "สำคัญผิด" ทำให้เกิดความสูญเสียขึ้น ต้นเหตุจากเสียงปืนนัดแรกที่หาที่มาไม่ได้ ส่วนปืนในรถชาวบ้านยังคงเป็นปริศนา คณะกรรมการอิสระตรวจสอบข้อเท็จจริงกรณีกำลังพลของกองร้อยทหารพรานที่ 4302 (ร้อย ทพ.4302) ใช้อาวุธปืนเอ็ม 16 และอาก้ายิงใส่รถกระบะต้องสงสัย บนทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 418 ท้องที่บ้านกาหยี ต.ปุโละปุโย อ.หนองจิก จ.ปัตตานี ทำให้มีผู้เสียชีวิต 4 ราย บาดเจ็บอีก 4 ราย เหตุเกิดเมื่อคืนวันที่ 29 ม.ค.2555 ระหว่างปฏิบัติการติดตามจับกุมคนร้ายที่ใช้อาวุธสงครามยิงถล่มฐานของทหารพราน ซึ่งมี นายแวดือราแม มะมิงจิ ประธานคณะกรรมการอิสลามประจำจังหวัดปัตตานี เป็นประธาน ได้ประชุมกันเมื่อวันศุกร์ที่ 16 มี.ค.ที่โรงแรมบีพีหาดใหญ่ อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา การประชุมดังกล่าวนับเป็นครั้งที่ 5 ซึ่งได้มีการสรุปและเรียบเรียงรายงานการตรวจสอบข้อเท็จจริง ก่อนที่คณะกรรมการอิสระฯจะลงชื่อและส่งมอบให้ พล.ท.อุดมชัย ธรรมสาโรรัชต์ แม่ทัพภาคที่ 4 ซึ่งเป็นผู้ลงนามแต่งตั้งคณะกรรมการชุดนี้ เพื่อเปิดเผยต่อสาธารณชนต่อไป มีรายงานว่า รายงานของคณะกรรมการอิสระฯ มีประเด็นตรวจสอบ 3 ประเด็นหลัก และได้ผลการตรวจสอบแล้วดังนี้ ประเด็นที่ 1 พฤติการณ์แห่งคดี มุ่งเน้นตรวจสอบเกี่ยวกับวัน เวลา สถานที่เกิดเหตุ สภาพแวดล้อม และพฤติกรรมที่เกี่ยวข้องของทั้งสองฝ่าย เพื่อแสวงหาข้อเท็จจริงเกี่ยวกับที่มาและสาเหตุของสถานการณ์ที่เกิดขึ้น ประเด็นนี้ได้ข้อสรุปว่า บุคคลทั้ง 9 คน (ชาวบ้านผู้เสียหาย) ที่อยู่ภายในรถกระบะเป็นบุคคลที่มีถิ่นที่อยู่ชัดเจน เปิดเผย และในวันเกิดเหตุทุกคนให้การสอดคล้องกันว่า ออกเดินทางไปร่วมละหมาดที่มัสยิดในหมู่บ้านและไปงานเมาลิดบ้านนายยา ดือราแม (หนึ่งในผู้เสียหาย) จากนั้นจึงออกเดินทางไปร่วมพิธีละหมาดคนตายที่บ้านทุ่งโพธิ์ อ.หนองจิก ผลการตรวจดีเอ็นเอของผู้ได้รับบาดเจ็บ 3 ราย ได้แก่ นายยา ดือราแม นายมะรูดิง แวกะจิ และ นายซอบรี บือราเฮง ไม่ปรากฏเป็นรูปแบบเดียวกับดีเอ็นเอในฐานข้อมูลของศูนย์พิสูจน์หลักฐาน 10 หรือฐานข้อมูลผู้ต้องสงสัยในการกระทำความผิด จึงไม่ปรากฏพฤติการณ์หรือข้อพิรุธใดที่น่าสงสัยว่าบุคคลทั้ง 9 เกี่ยวข้องกับเหตุการณ์ความไม่สงบในพื้นที่ ระเด็นที่ 2 ข้อโต้แย้งเกี่ยวกับอาวุธปืนที่พบในรถยนต์คันเกิดเหตุและหลักฐานทางนิติวิทยาศาสตร์อื่นๆ ประเด็นนี้ได้ข้อสรุปว่า มีข้อมูลจากรายงานเหตุการณ์ของเจ้าหน้าที่ที่ระบุว่าบุคคลในรถได้ใช้อาวุธปืนยิงใส่เจ้าหน้าที่และเจ้าหน้าที่ยิงต่อสู้ จึงทำให้บุคคลในรถเสียชีวิตและบาดเจ็บ โดยพบอาวุธปืนของกลางตกอยู่ภายในรถที่เกิดเหตุ ขณะที่ชาวบ้านผู้บาดเจ็บมีข้อโต้แย้งว่า ภายในรถคันเกิดเหตุไม่มีผู้ใดพกอาวุธปืน และอาวุธปืนที่พบภายในรถหลังเกิดเหตุไม่ใช่ของผู้เสียชีวิตและบาดเจ็บตามรายงานของเจ้าหน้าที่ คณะกรรมการอิสระฯได้รวบรวมพยานหลักฐานด้านนิติวิทยาศาสตร์และพยานหลักฐานในที่เกิดเหตุ ตลอดจนข้อเท็จจริงจากผู้เชี่ยวชาญ ฟังได้ว่า อาวุธปืนที่พบภายในรถกับปลอกกระสุนปืนที่ตกอยู่ในตัวรถไม่ตรงกัน และการตรวจสอบสารเคมีต่างๆ เกี่ยวกับอาวุธปืนจากบุคคล 3 คนภายในรถที่ถูกระบุว่าเป็นผู้ต้องสงสัย ไม่พบสารที่มาจากการยิงปืน คณะกรรมการฯจึงมีความเห็นเป็นเอกฉันท์ว่า ข้อโต้แย้งของชาวบ้านเกี่ยวกับอาวุธปืนที่พบในที่เกิดเหตุมีความน่าเชื่อถือกว่าข้ออ้างในรายงานของเจ้าหน้าที่ ประเด็นที่ 3 ข้อเท็จจริงเกี่ยวกับเหตุการณ์ก่อความรุนแรงเชื่อมโยงซึ่งเจ้าหน้าที่ได้ยกมาเป็นประเด็นกล่าวอ้างและอาจเป็นปัจจัยหรือที่มาของเหตุรุนแรงที่เกิดขึ้น รวมทั้งข้อเท็จจริงว่าในขณะเกิดเหตุเจ้าหน้าที่ทหารพรานผู้เกี่ยวข้องกับเหตุการณ์อยู่ระหว่างการปฏิบัติงานตามอำนาจหรือไม่ ประเด็นนี้ได้ข้อสรุปว่า จากการตรวจสอบข้อเท็จจริง ไม่มีข้อโต้แย้ง ประกอบกับประชาชนในพื้นที่ใกล้เคียงที่เกิดเหตุ รวมทั้งบุคคลผู้ได้รับบาดเจ็บก็ให้ถ้อยคำที่สอดรับกับรายงานของเจ้าหน้าที่ รายงานของคณะกรรมการอิสระฯ สรุปว่า เหตุการณ์ยิงรถยนต์กระบะทำให้มีผู้เสียชีวิต 4 รายและบาดเจ็บ 4 ราย เกิดจากการกระทำของเจ้าหน้าที่รัฐที่อยู่ระหว่างการปฏิบัติหน้าที่ เป็นการกระทำต่อผู้บริสุทธิ์ โดยสาเหตุน่าจะเกิดจากการ "สำคัญผิด" อันเนื่องมาจากปัจจัยแวดล้อมที่ระยะเวลาใกล้เคียงกันได้เกิดเหตุคนร้ายโจมตีฐานทหารพราน จึงอาจมีอคติและความหวาดระแวงอยู่เป็นพื้นฐานเดิม ขณะเกิดเหตุ แม้เจ้าหน้าที่และประชาชนจะพยายามแสดงตัวและแสดงเจตนาที่ดีต่อกัน แต่เมื่อเกิดเสียงปืนดังขึ้นนัดแรกจากบุคคลใดหรือจากเหตุใดไม่ปรากฏชัด จึงเกิดเหตุรุนแรงขึ้นในช่วงระยะเวลาวิกฤติ โดยต่างฝ่ายต่างไม่คาดคิดมาก่อน อย่างไรก็ดี แม้การทำงานของคณะกรรมการอิสระฯ จะได้ข้อสรุปถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นทั้งหมด และได้จัดทำเป็นรายงานจนเกือบสมบูรณ์ โดยเฉพาะประเด็นที่เกี่ยวกับอาวุธปืนที่พบอยู่ในรถกระบะ ได้ข้อสรุปว่าไม่ใช่ของผู้เสียชีวิตและผู้บาดเจ็บ แต่ก็ทำให้เกิดข้อสงสัยถึงที่มาที่ไปของอาวุธปืนของกลางปริศนาดังกล่าว แต่ประเด็นนี้ทางคณะกรรมการอิสระฯไม่ได้คลี่ปมให้เกิดความชัดเจน

http://www.isranews.org/south-news/scoop/38-2009-11-15-11-15-01/5922--4-qq.html 

0 ความคิดเห็น:

About This Blog

รายการบล็อกของฉัน

รายการบล็อก

Our Blogger Templates Web Design

  © Blogger templates The Professional Template by Ourblogtemplates.com 2008

Back to TOP